วันไหว้ครู

สร้างโดย : นางสาวสุพัฒน์กุล ภัคโชค
สร้างเมื่อ พุธ, 18/06/2008 – 21:53
มีผู้อ่าน 30,015 ครั้ง (06/11/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/4340

วันไหว้ครู
วันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมิถุนายน

     วันไหว้ครู ของแต่ละโรงเรียนจะกำหนดจัดงานตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเปิดภาคเรียน เทอม 1 โดยนักเรียนแต่ละโรงเรียน จะมีพิธีไหว้ครู ด้วยการนำพานไหว้ครู ที่มีหญ้าแพรก ดอกเข็ม ดอกมะเขือ และข้าวตอก มาแสดงความเคารพต่อครู ซึ่งวันเวลาจะถือเอาความสะดวกของแต่ละโรงเรียนเป็นสำคัญ

     ลักษณะนิสัยของคนไทยที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การรู้คุณคน เมื่อรู้ว่าใครมีบุญแก่ตนก็จะแสดงความเคารพ ยกย่อง อ่อนน้อมถ่อมตนด้วย เช่น การทักทายด้วยการยกมือไหว้ พูดจาไพเราะกล่าวคำขอบคุณ ขอโทษในโอกาสที่เหมาะสม และที่สำคัญคือ การรู้จักกตัญญูรู้คุณผู้มีพระคุณ ในการที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาจะแสดงความกตัญญูต่อครู อาจารย์นั้น คือ การตั้งใจเล่าเรียนศึกษาวิชาการ และประพฤติตัวเป็นคนดีตามที่ครูสั่งสอน การจัดพิธีไหว้ครูเป็นการแสดงความเคารพครูอย่างหนึ่ง ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จะกำหนดจัดพิธีไหว้ครู โดยถือหลักว่า ต้องเป็นวันพฤหัสบดี เพราะเชื่อว่าวันนี้เป็นวันครู ส่วนจะเป็นพฤหัสบดีที่เท่าไรของเดือน ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละสถาบันไม่มีข้อจำกัด

     การไหว้ครู คือ การที่ศิษย์แสดงความคารวะ ยอมรับนับถือครูอาจารย์อย่างจริงใจ ว่าท่านเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมความรู้ ศิษย์ในฐานะผู้สืบทอดมรดกทางวิชาการ จึงพร้อมใจกันปวารณาตนรับการถ่ายทอดวิชาการความรู้ ด้วยความวิริยะอุตสาหะมานะอดทน เพื่อให้บรรลุจุดหมายปลายทางของการศึกษาตามที่ตั้งใจไว้

     ครู แปลว่า หนัก ครูย่อมเป็นผู้ที่ผ่านการศึกษาค้นคว้ามาแล้วอย่างหนัก เพื่อสะสมความรู้เอาไว้ถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ และครูย่อมเป็นผู้ที่ต้องอดทนอย่างหนัก ในการสั่งสอนถ่ายทอดความรู้แก่ศิษย์

     ครู แปลว่า ตระหนัก ครูเป็นผู้ที่มีปัญญามาก เมื่อจะกระทำสิ่งใด ครูจึงสามารถตระหนักได้ว่า สิ่งนั้นผิดหรือถูก ดีหรือเลว ควรหรือไม่ควร เมื่อทำแล้วจะเป็นบุญหรือเป็นบาป เมื่อตระหนักอย่างนี้แล้ว ครูก็จะเลือกทำ แต่ในสิ่งที่เห็นว่าดีว่าถูกว่าควรทำ และเมื่อทำไปแล้ว ก็ให้แต่ผลบุญเท่านั้น หรือในอีกความหมาย ครู คือ ผู้ที่จุดดวงประทีปทางปัญญาให้แก่ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์พ้นจากความมืด คือ ความไม่รู้ โดยพยายามอดทนประคับประคอง ส่งเสริมให้ศิษย์ เจริญก้าวหน้าในทุกวิถีทาง ฉะนั้น ครูที่แท้จริงคือ ผู้ให้ สำหรับศิษย์โดยไม่มีขอบเขตจำกัด ทั้งนี้เพราะหัวใจ และวิญญาณของครูบรรจุสิ่ง 3 ประการ คือ ปัญญา กรุณา และบริสุทธิ์ไว้เต็มเปี่ยม

     ปัญญา คือ ความสว่าง ที่เกิดจากการสะสมความรู้ความสามารถ คุณธรรม ความดีมาตลอดชีวิต ประทีปแห่งปัญญา ซึ่งสว่างจ้าอยู่กลางใจของครูนั้น เป็นประทีปดวงโตที่ครูพร้อมจะจุดต่อให้กับผู้ที่มีความต้องการดวงสว่างนั้น

     กรุณา คือ พลังแห่งความดี ที่คอยผลักดันให้ครูพร้อมที่จะจุดดวงประทีปทางปัญญาให้แก่ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์จะได้รับแต่ประโยชน์ ความสุข ความเจริญ ความก้าวหน้าอย่างครู หรือมากยิ่งกว่าครูบริสุทธิ์ ครูมีเจตนาดีต่อศิษย์ด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ประสงค์ร้ายแอบแฝงอยู่ ดั้งนั้นศิษย์ควรสำนึกในคุณความดีของครูที่มีต่อศิษย์ ด้วยการให้ความเคารพอ่อนน้อม เพื่อรองรับปัญญาครู บุคคลเมื่อต้องการความรู้จากผู้อื่น ก็ต้องแสดงความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยกย่องผู้มีความรู้ แล้วก็ฝากตัวเป็นศิษย์

     ความอดทน ขยันหมั่นเพียร เพื่อรองรับความกรุณาจากครู บุคคลใด ขณะที่เรียนรู้หรือขณะที่ทดลองปฏิบัติหากขาดความอดทน ความขยันหมั่นเพียร บุคคลนั้นย่อมหมดโอกาสที่จะได้รับความรู้ทั้งหมดไปจากครู

     ความมีระเบียบวินัย เพื่อรองรับความบริสุทธิ์ใจจากครู บุคคลที่จะสามารถเรียนรู้ และรับการถ่ายทอดความรู้ทั้งหมด ไปจากครูได้จนจบหลักสูตร ต้องเป็นผู้ที่ประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัย หรืออยู่ในข้อกำหนดกฎเกณฑ์ ที่ทางสถาบันหรือครูกำหนดไว้ สำหรับสิ่งของที่ใช้ในพิธีไหว้ครู ที่ควรจะมีได้แก่ ดอกมะเขือ, หญ้าแพรก, ข้าวตอก

https://www.mcot.net/view/cD1gpA1g

     ดอกมะเขือ เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน โดยธรรมชาติของต้นมะเขือ เมื่อมีดอก ซึ่งดอกที่จะให้ผลมะเขือได้ต้องโค้งลง เหมือนผู้อยู่ในอาการแสดงความเคารพ หรือคารวะบุคคลที่ตนเคารพบูชายกย่อง ถ้าดอกมะเขือดอกใด ชี้ดอกขึ้นเหมือนดอกไม้ชนิดอื่น ดอกนั้นจะไม่ให้ผล เพราะจะเน่าร่วงหล่นไป เหมือนบุคคลที่ขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน ขาดความเคารพ ก็จะหมดโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดความรู้จากครู

     หญ้าแพรก เป็นสัญลักษณ์ของความอดทน คุณสมบัติพิเศษของหญ้าแพรก คือ ความอดทน หญ้าแพรกที่เราเห็นตามสนาม ตามทางเดิน ตามคันนา เมื่อถึงหน้าแล้วแม้ว่าอากาศจะแห้งแล้งจัด จนต้นไม้ทั้งหลายทนไม่ไหว ต้องแห้งเหี่ยวตายไปตาม ๆ กัน แต่หญ้าแพรกก็ยังทนอยู่ได้ไม่ตาย ครั้นถึงฤดูฝน ฝนตกมากเกิดน้ำท่วมขัง ต้นไม้ที่ชอบน้ำก็ชูยอดเขียวชอุ่ม ส่วนต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำก็เน่าตาย แต่หญ้าแพรกก็ยังอยู่ได้ไม่ตาย เปรียบเหมือนบุคคลที่มีความอดทนเหมือนหญ้าแพรก กล่าวคือ ศิษย์ที่มีคุณสมบัติที่ดี จะส่อแววว่าเมื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาการใดก็ตาม จะเป็นผู้ที่สามารถเรียนได้สำเร็จตามหลักสูตรที่กำหนด

     ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว คนเรามักจะมีความซุกซน ความเกียจคร้าน เป็นสมบัติมากบ้าง น้อยบ้างก็ตาม แต่เมื่อเขามีความต้องการศึกษาหาความรู้ เขาก็ต้องรู้จักควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ในระเบียบหรือในกฎเกณฑ์ที่สถาบันได้กำหนดไว้ ใครก็ตามหากตามใจตนเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก

     ดอกเข็ม เพราะดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือนดอกเข็ม และก็อาจเป็นได้ว่า เกสรดอกเข็มมีรสหวาน การใช้ดอกเข็มไหว้ครู วิชาความรู้จะให้ประโยชน์กับชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม

     ของทั้ง 4 สิ่งดังกล่าวข้างต้น ล้วนมีความหมายเฉพาะในการบูชาครู ซึ่งนิยมนำมาจัดเป็นพานดอกไม้ไหว้ครู เพื่อเป็นการแสดงว่า ศิษย์จะมีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อครู อาจารย์ มีความอดทนที่จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตามที่ครูสั่งสอน ขณะเดียวกันก็มีระเบียบวินัย และมีความประพฤติที่ดี

     อนิสงส์ของการไหว้ครู ผู้ที่ไหว้ครู หรือบูชาพระคุณของครู ด้วยความเคารพนับถือยกย่อง บุคคลผู้นั้นย่อมจะได้ผลดีสูงสุด เป็นผู้มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากครูเต็มที่ สามารถใช้ความรู้ที่ได้เล่าเรียนมานั้น ให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและผู้อื่น เมื่อศิษย์อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอต้นเสมอปลาย ครูจะยิ่งเมตตา กรุณาศิษย์มากขึ้น สิ่งที่ศิษย์ทำผิดพลาดครูจะคอยตักเตือน ทำให้ศิษย์ไม่มีโอกาสทำในสิ่งที่ไม่ดี ด้านความรู้และวิทยาการ ต่าง ๆ ศิษย์จะมีความรู้เพิ่มเติมต่อไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะได้รับการถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างจากครูไว้หมดแล้วก็ตาม

เพลงพระคุณที่สาม

ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทาน ความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบ ชั่วดี
ก่อนจะนอน สวดมนต์อ้อนวอนทุกที
ขอกุศล บุญบารมี ส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น

ครูมีบุญคุณ จะต้องเทิดทูล เอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เรา ไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น
สอนให้รู้ จัดเจน เฝ้าเน้น เฝ้าแนะ มิได้อำพราง

* พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร
เปรียบเปรย ครูไว้ ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็น ว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้าง แนะนำแนวทาง อย่างครู

บุญเคยทำมา แต่ปางใดใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ่วพาน คุณครู
ขอกุศลผลบุญค้ำชู ให้ครูเป็นสุข ชั่วนิรันดร
ให้ครูเป็นสุข ชั่วนิรันดร