แมงลัก

 

Homemy storyอาหารที่จำเป็นอาหารที่เหมาะกับวัยอาหารผู้ป่วยคำแนะนำ

i_snoopy2@hotmail.com

 

แมงลัก

 

       ในปัจจุบันนี้คนไทยส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหากับการบริโภคอาหารผิดหลักโภชนาการ เกิดภาวะโรคอ้วนตามมา แต่ผู้หญิงจะมีความวกตกกังวลมากกว่าผู้ชาย เพราะบุคลิกภาพจะเปลี่ยนไปทำให้ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง

        ในปัจจุบันมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ ซึ่งมีสรรพคุณดูดซึมอาหารที่รับประทานเข้าไป และเพิ่มการขับถ่ายอีกด้วย ดังนั้นคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และมีอาการท้องผูกเป็นประจำจึงควรใช้วิธีนี้

สำหรับสมุนไพรที่มีสรรพคุณดังกล่าวนั้น มีหลายตัว แต่ในที่นี้จะแนะนำสมุนไพรชื่อ แมงลัก ซึ่งท่านก็คงรู้จักกันดี

      แมงลัก มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นว่า มังลัก (ภาคกลาง) ก้อมก้อขาว (ภาคเหนือ)

     ส่วนที่ใช้เป็นยา คือ เม็ดแมงลักแก่ โดยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า เม็ดแมงลักประกอบด้วยสารคาร์โบไฮเดรตหลายชนิด ซึ่งเป็นโมเลกุลใหญ่ และสารประกอบอื่น ๆ  เช่น Camphene, ucillage, myrcene oil, D-Glucose เป็นต้น บริเวณเปลือกนอกของผลสารเมือก ซึ่งสามารถพองตัวได้ 45 เท่า และได้มีการวิจัยพบว่า เม็ดแมงลักมีสรรถคุณเป็นยาระบาย เพิ่มกากอาหารได้ และเมือกยังสามารถช่วยหล่อลื่นให้อุจจาระอ่อนตัว สามารถขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น จึงได้มีการนำเม็ดแมงลักมารับประทานก่อนอาหาร หรือบางท่านก็รับประทานแทนอาหาร เพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารว่าง จึงสามารถใช้ลดความอ้วนได้ เพราะเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน เมื่อท่านจะลองใช้เม็ดแมงลัก สามารถเตรียมได้ โดยใช้เม็ดแมงลัก 1-2 ช้อนชา แช่น้ำ 1 แก้วใหญ่ ทิ้งไว้จนกว่าจะพองเต็มที่ ถ้าใช้เป็นยาระบายให้ทานก่อนนอน ถ้าเป็นยาลดความอ้วนให้ทานก่อนอาหาร หรือทดแทนอาหารเป็นบางมื้อ เพราะอาจเป็นโรคขาดสารอาหารได้

      นอกจากนั้นการรับประทานเม็ดแมงลักในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง หรือถ้ารับประทานในขณะที่เม็ดแมงลักยังไม่พองเต็มที่ก็จะมีการดูดน้ำจากกระเพาะอาหารได้ ทำให้เม็ดแมงลักจับตัวเป็นก้อนแข็ง และอุดตันลำไส้ ทำให้ท้องผูกได้มากขึ้น

 


คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่

ตั้งแต่วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2545
www.thaigoodview.com
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail :
thaigoodview@hotmail.com
ICQ : 82032264

Copyright(c) 2001 Unchalee Huansiricholt. All rights reserved.