supatkul Avatar

สร้างโดย : สุพัฒน์กุล ภัคโชค
สร้างเมื่อ เสาร์, 14/02/2552 – 21:22

     วันนี้ได้มีโอกาสไปสอบสัมภาษณ์ ป.โท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ แล้วก็ไปเจอบอร์ดที่น่าจะเป็นนักศึกษาได้จัดไว้ เขาได้พูดถึงความแตกต่างของสิ่งที่หลายๆ คนสงสัยว่า วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มันต่างกันอย่างไร พอได้อ่านแล้วก็ต้องรีบหยิบดินสอกับกระดาษ(กระดาษที่เตรียมไปสอบ)มาจด เพื่อที่ว่าจะได้มาเล่าให้คนที่ยังสงสัยได้ร้อง อ้อ!!! จึงขออนุญาตนำข้อมูลบางส่วนมาเล่าต่อด้วยค่ะ

     แต่ตอนจดนี่สิคนที่มาสอบด้วยกันก็มองกันหลายคนว่าจดอะไรหว่า ข้อสอบอ่ะป่าว เหอเหอ

ถ้าเปรียบกับต้นไม้

  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering: CE) เปรียบเสมือนรากของต้นไม้ ซึ่งถ้าไม่มีรากต้นไม่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ (แสดงว่าสำคัญมากแฮะ!!!)
    วิศวกรรมคอมพิวเตอร์จะเน้นเรียนแบบเจาะลึกรู้จริง ครอบคลุมหัวข้อทั้งหมดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้แก่ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเน็ตเวิร์ก (บนบอร์ดเขียนว่า “เน้นฮาร์ดแวร์ ประมาณว่าทำออกมากันเป็นชิ้นๆ ได้เลยทีเดียว) แต่จากประสบการณ์ที่เรียนมาเองขอบอกว่าไม่ได้เน้นแต่ที่ฮาร์ดแวร์อย่างเดียว เรียนทุกเรื่องเลย ต้องรู้ทุกอย่างก็ว่าได้ แต่ถ้ารู้ทั้งหมดเรียน 4 ปีคงไม่จบแน่ 555 พอจบมาคงต้องมาหาความรู้เอาเองอีกมากโขเลยล่ะ
  • วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science: CS) เปรียบเสมือนลำต้น ที่มีระบบส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ
    วิทยาการคอมพิวเตอร์จะเน้นเรียนทางด้านซอฟต์แวร์เป็นหลัก เรียนเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ล้วนๆ เน้นเขียนโปรแกรมเป็นส่วนใหญ่ มีเรียนเกี่ยวกับกราฟฟิก และเน็ตเวิร์ก ตามแต่จะสนใจเลือก (อันนี้ไม่เคยเรียนไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยได้ยินจากเพื่อนที่เคยฝึกงานด้วยกันบอกเน้นเขียนโปรแกรมอย่างมาก)
  • เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) เปรียบเสมือนบุคคลผู้นำผลไม้ที่ได้นั้นไปใช้อีกทีหนึ่ง
    เทคโนโลยีสารสนเทศเน้นการเรียนรู้ด้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ หรือการนำซอฟต์แวร์ต่างๆ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน (อันนี้เห็นด้วยแค่ที่บอกว่า เรียนรู้ด้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ แต่อย่างอื่นไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะเคยเรียนวิชาเลือกของคณะนี้อยู่ จริงๆแล้วเขาก็เรียนทั้งเขียนโปรแกรม ทั้งเน็ตเวิร์ก แล้วก็นำสิ่งที่มีไปประยุกต์ จะว่าไปก็ดีซะอีกไม่ต้องเรียนแต่วิชาการ ทฤษฎีที่มีอยู่ เป็นการใช้ความคิดที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ไปประยุกต์ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ ได้เรียนกราฟฟิก ทำภาพสวยๆงามๆ ไม่เหมือนกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนคอมพิวเตอร์กราฟฟิกอย่างลึกซึ่ง กว่าจะได้รูปสี่เหลี่ยมธรรมดามาซักรูปหนึ่งมันต้องคำนวณแล้วคำนวณอีก แก้บักโปรแกรมอยู่นาน)

     สงสัยอะไรอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ถามมาได้ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ อิอิ 

     ความรู้ที่มีตลอดเวลาที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาล-ปริญญาตรี (19 ปี) ไม่ได้บ่งบอกว่าเราเป็นคนดีหรือทำประโยชน์ให้กับสังคมมากน้อย แค่ไหน ถึงแม้งานที่ทำจะไม่ได้ใช้ความรู้จากสาขาที่จบมาเป็นประโยชน์ทั้งหมด ก็ยังดีกว่าคนที่มีความรู้มากแต่ไม่เคยทำประโยชน์ให้ใครเลยนอกจากตัวเอง

Happy Valentine’s Day
By SU (CE11@DPU)