แหล่งการเรียนรู้ในโรงเรียน:พวงหยก


ชื่อวิทยาศาสร์ Strongylodon macrobotrys.
ตระกูล LEGUMINOSAE
ชื่อสามัญ Jade Vine.


ที่มา : โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
ลักษณะทั่วไป
ต้น : พวงหยกเป็นไม้เถาเลื้อย เนื้อแข็ง เถามีสีน้ำตาลเข้ม มักเลื้อยไปตามหลักต่าง ๆ หรือตามกำแพง
แล้วจะทิ้งต้นย้อยลงมา แลดูสวยงาม จึงนิยมปลูกพวงหยกบริเวณริมกำแพง ซุ้มประตู หรืออาจ
เป็นซุ้มที่นั่งเล่น หรือซุ้มในสวนสาธารณะ
ใบ : ลักษณะของใบเป็นใบประกอบที่มีขนาดใหญ่ ใบมีความกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร และยาว
ประมาณ 13 เซนติเมตร ใบจะออกสลับซ้าย - ขวา ไปตลอดกิ่ง และใบหนึ่งก้านใบ จะมีใบย่อย
3 ใบ ใบจะค่อนข้างรี มีปลายใบและโคนใบแหลม
ดอก : ลักษณะของดอกจะออกเป็นช่อแล้วห้อยลง ดอกมีสีเขียวหยกดอกจะเริ่มทยอยบานจากบริเวณ
โคนช่อก่อน ลักษณะของตัวดอกนั้นจะคล้ายกับดอกแค แต่ดอกพวงหยกจะมีขนาดใหญ่กว่าดอก
แต่ละดอกจะมีก้านดอกยึดติดกับแกนของช่อรวมกันเป็นพวง มีกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง
ส่วนกลีบดอกนั้นจะแบน ภายในหนึ่งดอกจะมี 5 กลีบ มีขนาด ต่าง ๆ มีเกสรตัวผู้อยู่กลางดอก
10 กัน ช่อดอกที่สมบูรณ์มีความยาวประมาณ 65-70 เซนติเมตร
แล้วจะทิ้งต้นย้อยลงมา แลดูสวยงาม จึงนิยมปลูกพวงหยกบริเวณริมกำแพง ซุ้มประตู หรืออาจ
เป็นซุ้มที่นั่งเล่น หรือซุ้มในสวนสาธารณะ
ใบ : ลักษณะของใบเป็นใบประกอบที่มีขนาดใหญ่ ใบมีความกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร และยาว
ประมาณ 13 เซนติเมตร ใบจะออกสลับซ้าย - ขวา ไปตลอดกิ่ง และใบหนึ่งก้านใบ จะมีใบย่อย
3 ใบ ใบจะค่อนข้างรี มีปลายใบและโคนใบแหลม
ดอก : ลักษณะของดอกจะออกเป็นช่อแล้วห้อยลง ดอกมีสีเขียวหยกดอกจะเริ่มทยอยบานจากบริเวณ
โคนช่อก่อน ลักษณะของตัวดอกนั้นจะคล้ายกับดอกแค แต่ดอกพวงหยกจะมีขนาดใหญ่กว่าดอก
แต่ละดอกจะมีก้านดอกยึดติดกับแกนของช่อรวมกันเป็นพวง มีกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง
ส่วนกลีบดอกนั้นจะแบน ภายในหนึ่งดอกจะมี 5 กลีบ มีขนาด ต่าง ๆ มีเกสรตัวผู้อยู่กลางดอก
10 กัน ช่อดอกที่สมบูรณ์มีความยาวประมาณ 65-70 เซนติเมตร
การปลูก
ปลูกโดยการใช้เมล็ด จะต้องนำเมล็ดของพวงหยกมาเพราะในกะบะเพาะ เมื่อเมล็ดแตกเป็นต้นอ่อนมีใบแท้ 2 ใบ
ก็ให้ย้ายต้นอ่อนลงถุงกระดาษ ขนาดเล็กถุงละ 1 ต้น ช่วงแรกให้วางต้นกล้าไว้ในที่ร่มสัก 2 วัน แล้วจึงค่อยนำถุง
ต้นกล้าออกวางให้ได้รับแสงแดดบ้าง จนได้รับแสงแดดเต็มที่ ต้นกล้าก็จะมีใบเพิ่มขึ้นเป็น 4-6 ใบ หรือประมาณ
2 สัปดาห์ ก็สามารถนำต้นกล้าลงปลูกในบริเวณที่ต้องการได้
การปลูกให้ขุดหลุมปลูก ขนาดกว้าง ลึกประมาณ 1 x 1 ฟุต แล้วให้รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกผสมกับขี้เถ้าแกลบ
หรือเศษใบไม้ในอัตราส่วน 1 x 1 แล้ววางถุงต้นกล้าลงกลางหลุม กลบดินพอเสมอโคนต้นกล้า รดน้ำให้ชุ่ม หลัง
จากนั้นให้รดน้ำเช้า - เย็นทุกวัน ประมาณ 2 เดือน จึงงดน้ำตอนเย็น ให้รดเฉพาะตอนเช้าเพียง 1 ครั้ง ก็พอ
ก็ให้ย้ายต้นอ่อนลงถุงกระดาษ ขนาดเล็กถุงละ 1 ต้น ช่วงแรกให้วางต้นกล้าไว้ในที่ร่มสัก 2 วัน แล้วจึงค่อยนำถุง
ต้นกล้าออกวางให้ได้รับแสงแดดบ้าง จนได้รับแสงแดดเต็มที่ ต้นกล้าก็จะมีใบเพิ่มขึ้นเป็น 4-6 ใบ หรือประมาณ
2 สัปดาห์ ก็สามารถนำต้นกล้าลงปลูกในบริเวณที่ต้องการได้
การปลูกให้ขุดหลุมปลูก ขนาดกว้าง ลึกประมาณ 1 x 1 ฟุต แล้วให้รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกผสมกับขี้เถ้าแกลบ
หรือเศษใบไม้ในอัตราส่วน 1 x 1 แล้ววางถุงต้นกล้าลงกลางหลุม กลบดินพอเสมอโคนต้นกล้า รดน้ำให้ชุ่ม หลัง
จากนั้นให้รดน้ำเช้า - เย็นทุกวัน ประมาณ 2 เดือน จึงงดน้ำตอนเย็น ให้รดเฉพาะตอนเช้าเพียง 1 ครั้ง ก็พอ
ส่วนใหญ่จะออกดอกช่วงฤดูหนาว
ตรวจครั้งที่ 2 มีการปรับปรุงเพิ่มเติม
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
ปรับปรุงเพิ่มเติมแล้วนะค่ะ
ผ่านมาหลายวัน รีบปรับปรุง เพิ่มเติม ให้สวยงาม ดูดี และครบถ้วนด้วยนะจ้ะ
1. น่าจะทำเป็นป้ายแบนเนอร์ชื่อเรื่อง
2. รูปภาพที่ถ่ายมาน่าจะมีการตกแต่งให้ดูดี
3. ควรบอกสถานที่อยู่ของแหล่งเรียนรู้ และจำนวนแหล่งเรียนรู้ที่นำเสนอว่ามีกี่แห่ง
4. ควรมีข้อคิดเห็นจากสมาชิกของชาวสตรีศรีสุริโยทัย
5. ใช้ Google Map บอกที่ตั้งของแหล่งเรียนรู้
6. ควรสรุปเนื้อหาทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ความยาวประมาณ 5 บรรทัด
7. ควรบูรณาการเข้ากับสาระวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชาที่กำลังเรียนอยู่ให้ได้
8. ใช้คำสั่ง <!--pagebreak--> เพื่อแบ่งหน้าให้เหมาะสมด้วย
จึงขอมอบนกแก้วไปเลี้ยงก่อนนะ
แหล่งที่มาของภาพ http://img.kapook.com/image/pet/indian-parrot.jpg
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน