จิตอาสา...ทำไม?
หลายคนมีคำถามกับสังคมว่าทำไมความวุ่นวายของสังคมจึงมากนัก การแข่งขันที่ร้อนแรงในทุกๆด้าน การเมืองที่แบ่งฝักฝ่าย การทำลายสิ่งแวดล้อม การเอาเปรียบผู้ด้อยโอกาส การปล่อยมลพิษสู่สังคม การว่าร้ายเสียดแทง การแก่งแย่งชิงดี ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มาจากสาเหตุเบื้องต้นคล้ายๆกันคือ ความเห็นแก่ตัว หรือเอาแต่ได้ในส่วนตนเป็นหลัก ใช่หรือไม่
ทำอย่างไรจะลดความเอาแต่ได้ลงบ้าง ตรงกันข้ามกับการเอาเข้ามาใส่ตัวก็คือ "การให้" แก่คนอื่นออกไป เมื่อคนต่างๆ เริ่มมองออกไปสู่ภายนอก นอกจากตัวเราเอง มองเห็นผู้อื่นอย่างลึกซึ้งแท้จริงมากขึ้น เริ่มเข้าใจมุมมองของคนอื่น เขาต้องการอะไร เขาอยู่ในสภาพไหน เราช่วยอะไรได้บ้าง มองเห็นสังคม เห็นความเป็นไป เห็นแนวทางที่จะช่วยกันลดปัญหา เริ่มให้ เริ่มสละสิ่งที่เรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เวลา แรงงาน เงิน สิ่งของ อวัยวะหรือแม้กระทั่งสละความเป็นตัวเราของเรา ซึ่งนั่นเป็นหนทางการพัฒนาจิตใจแต่ละคนได้อย่างเป็นรูปธรรม
จิตสาธารณะตรงนี้ที่มองเห็นผู้อื่นเห็นสังคมดังนี้เองที่เราเรียกกันว่า "จิตอาสา" ซึ่งเครือข่ายจิตอาสาได้ร่วมกันหาคำอธิบายสั้นๆ ว่า ?คือจิตที่ยกระดับปัญญาภายใน และสำนึกสาธารณะ นำไปสู่การมีส่วนร่วมเพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมและสันติ ซึ่งก็คือจิตใจที่เห็นผู้อื่นด้วย ไม่เพียงแต่ตัวเราเอง เราอาจจะยื่นมือออกไปทำอะไรให้ได้บ้าง เสียสละอะไรได้บ้าง ช่วยเหลืออะไรได้บ้าง แบบเพื่อนช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ใช่แบบผู้เหนือกว่า มีน้ำใจแก่กันและกันไม่นิ่งดูดายแบบที่เรื่องอะไรจะเกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฉันฉันไม่สนใจ สามารถแสดงออกมาได้ในหลายรูปแบบ ทั้งการให้รูปแบบต่างๆ ตลอดจนการอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคม
ปัจจุบันได้มีการร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริม "จิตอาสา" ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยจากหลายภาคส่วน เป็นการปลุกน้ำใจคนไทยให้งอกงามกลับมาอีกครั้งหนึ่ง มาช่วยกันดูแลสังคมไทยร่วมกัน ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ตลอดจนปัญหาต่างๆ รอบๆ ตัว อย่างน้อย มองออกมานอกกรอบของเรื่องตัวเอง ออกมาดูคนอื่น เห็นใจ เข้าใจคนอื่นกันมากขึ้น ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ทำดีให้เป็นรูปธรรมกันมากขึ้นในสังคมไทย มิใช่เพียงแต่วิจารณ์ ต่อว่าใครหรือคนกลุ่มใดที่ควรรับผิดชอบ แต่ออกมารับผิดชอบ มีส่วนร่วมด้วยกัน
เพียงแค่คนไทยแต่ละคน ลุกขึ้นมาทำความดีกันคนละนิด คนละนิดเดียวเท่านั้น ประเทศชาติของเราน่าจะงดงามขึ้นอีกไม่น้อย เช่น เพียงร่วมกันบริจาคเงินกันเพียงคนละ ๑๐ บาท เราก็จะมีงบประมาณช่วยเหลือสังคมขึ้นมาทันที ๖๐๐-๗๐๐ ล้านบาท ถ้าเราอาสาช่วยเหลือสังคมคนละเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อปี เราก็จะมีถึง ๖๐-๗๐ ล้านชั่วโมงที่คนมาช่วยเหลือกัน เราลองนึกดูกันซิคะว่าสังคมเราจะเป็นอย่างไร ถ้าคนไทยมีจิตอาสากันเต็มแผ่นดิน ความสุขสงบของสังคมคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เรามาช่วยกันสร้าง "จิตอาสา" กันเถอะค่ะ
บทความโดย : มิชิตา จำปาเทศ รอดสุทธิ
พิมพ์ลงสารเพื่อนเสม ฉบับที่ 30 เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2551
เล่าเรื่องได้ดี จัดได้สวยงาม
น่าเสียดายที่การใช้คำสั่ง <div></div> ที่ไม่มีข้อมูล ทำให้เนื้อหาด้านขวาของหน้าตกลงมาอยู่ข้างล่าง เข้าไปแก้ไขที่ปุ่ม HTML
จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
อืม ดีจ้ะ แต่จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะจ้ะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
อืม ดีจ้ะ แต่จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะจ้ะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
ตกแต่งสวยดี เนื้อหาแน่นเยี่ยม!!
สวยค่ะ เนื้อหาเยอะดี :D
น่ารัก แอ๊บแบ๊ว หวานมากๆๆๆ กริ๊บกริ๊ววววววววววววววววว
ทำไมมีเต่าที่แบรนด์เนอร์ ด้วยยยล๊าาาา สวยๆ
><
ป๊าดดดดด!! น่ารักแท้
ไปเยอะจังเลย บล็อกสวยจ้า :)
หนูก็ไปกับคนนี้มาค่ะ หน้าตาดีจิตใจบุญ 5555
อยากให้ทุกคน "ต๋งหม่งเหมียวขื่อ" X'D