สมอง

อาหารบำรุงสมอง
หลายครั้งในชีวิตของเรา การงาน การเงิน สังคมและชีวิตครอบครัว ทำให้เราต้องคิดหนักใช้สมองและความคิดในเรื่องต่างๆมากมายหลายเรื่องบางครั้งก็ทำให้คนเราเครียดหรือเหนื่อยล้าไปได้เหมือนกัน
เครียดนักก็พักกันเสียก่อน มาหาอะไรกิน มาหาอะไรบำรุงร่างกาย บำรุงสมองกันดีกว่านะคะอาหารบำรุงสมองนั้นมีมากมาย บางคนก็ชอบซุปไก่รังนก หรือโสม สมุนไพรต่างๆ อาหารแต่ละอย่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจแตกต่างกันไป การกินอาหารที่หลากหลาย ย่อมได้ประโยชน์เพียงแต่ต้องกินให้พอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปกินให้ถูกส่วนค่ะ
7 อาหารบำรุงสมอง
ที่มาของภาพ http://www.oknation.net/blog/kritwat/2010/09/04/entry-1
1.ปลา เป็นอาหารบำรุงสมองยอดฮิตที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกๆเลยครับเพราะในปลาจะมีกรดไขมัน โอเมก้า 3ช่วยสร้างและดูแลผนังเซลส์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่เสื่อมตามวัยเร็วเกินไป นั่นเอง(กรดไขมัน DHA ที่อยู่ในกรดไขมันโอเมก้า3มีความสำคัญต่อการพัฒนาและบำรุงเซลส์สมองมากเพราะเป็นกรดไขมันโซ่ยาวแบบเดียวกันกับที่พบในเยื่อเซลส์สมองของเรา)ปลากระพง ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาทู
เป็นปลาที่มีโอเมก้า 3 ในปริมาณสูง

2สาหร่ายทะเล มีโอเมก้า 3 สูงเช่นกันจัดว่าเป็นอาหารบำรุงสมองอย่างหนึ่งที่สำคัญและยังช่วยให้เส้นผมดกดำได้ด้วยสาหร่ายทะเล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพและยังมีรสชาติอร่อย จึงนิยมใช้เป็นส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะใส่แกงจืดหรือผัดผักต่างๆ ก็ได้ นอกจากนี้ สาหร่ายทะเลยังมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการอยู่ 18 ชนิด อาทิ แคลเซียม เหล็ก ไอโอดีน แมกนีเซียม และโซเดียม เป็นต้น แต่ที่มีมากเป็นพิเศษและมีความสำคัญต่อร่างกายของเรา ได้แก่
1. ไอโอดีน โดยปกติแล้วคนเราต้องการไอโอดีนประมาณ 0.1-0.3 มิลลิกรัมต่อวัน หากเทียบกับการกินสาหร่ายทะเลชนิดแผ่นขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร แค่นี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และช่วยป้องกันโรคคอพอกได้
2. ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในสาหร่ายทะเล ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล รวมทั้งบำรุงเส้นผมให้ดกดำเป็นมันเงางามมากยิ่งขึ้น
3. ทองแดง หน้าที่ดูดซึมธาตุเหล็กและสร้างฮีโมโกลบินที่ไขกระดูก หากร่างกายขาดธาตุนี้จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางและผมร่วงง่าย
4. สังกะสี เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
5. ใยอาหาร ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ ทำให้ท้องไม่ผูก และเร่งการขับถ่ายสารพิษต่างๆ ในทางเดินอาหาร
อย่างไรก็ดี ถึงแม้คุณจะชอบสาหร่ายมากเพียงใดก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะในสาหร่ายมีปริมาณโซเดียมสูง ผู้ที่เป็นโรคไตและความดันโลหิตสูงจึงควรระวัง

3.กระเทียม สุดยอดพืชมหัศจรรย์กระเทียมจะช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างเทโรนินากขึ้น ช่วยทำให้เราอารมณ์ดี ลดความเครียดช่วยชะลอความเสื่อมของเซลส์ประสาท ช่วยให้ความจำดี สรรพคุณใช้เป็นอาหาร คือเป็นส่วนผสมเพื่อแต่งกลิ่นหายาใช้ผสมกับขิงอย่างละเท่า ๆ กัน แล้วนำมาบดละลายกับน้ำอ้อยกิน จะแก้รัตตะปิตตะเสมหะ แก้เสมหะและลม แก้ฟกช้ำ แก้อืด กระจายโลหิต ผสมยารักษาโรคมะเร็งเพลิง มะเร็งคุด มะเร็งเปื่อยทั้งตัว ผสมกับยาแก้ไอ แก้จุกเสียด แก้ลมบ้าหมู แก้ลิ้นแข็ง ช่วยบำรุงอาหาร ผสมในยาแก้ท้องอืด แก้เจ็บท้อง ริดสีดวงทวาร ผสมยาทาแก้คลายเส้น แก้เมื่อย แก้กลาก แก้โรคผิวหนัง ผสมกับน้ำมันองคสูตรแก้ริดสีดวงทวาร คัน ฟกช้ำ บวม เมื่อใช้ผสมน้ำนมหรือน้ำกะทิสดคั้นใช้ขับพยาธิเส้นด้าย กินอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ก็จะขับออก นอกจากนี้ เนื่องจากกระเทียมมีรสร้อน สามารถปริมาณ โคเลสเตอรอลในเลือดได้ ทำให้ลดการอุตตันของเส้นเลือดเป็นต้น
ที่มาของภาพ http://www.yourhealthyguide.com/article/an-ads-soybean.htm
4.ถั่วเหลือง เป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ยอดเยี่ยมมีคุณประโยชน์หลากหลายสำหรับสมองนั้น ถั่วเหลืองมีสารไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยให้เซลส์ประสาทของเราแข็งแรง ช่วยเรื่องความจำ พบว่า ช่วยป้องกันและแก้ไข โรคหัวใจ เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่มีคอเรสเตอรอล มีไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ยังมี โอเมกา 3 และวิตามิน อี•พบว่าช่วยป้องกันและยับยั้งโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก แม้ว่ากลไกในการทำงานของมันเรายังไม่ทราบ แต่นักวิจัยพบว่า ผู้ชายที่รับประทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองยิ่งมากเท่าไร การเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากยิ่งพบน้อยลง
• ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากถั่วเหลืองมีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร และจากการวิจัยยังพบว่าผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ได้
•เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญสำหรับนักมังสวิรัต เพราะถั่วเหลืองมีสารอะมิโน เอซิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย
•ใช้แทนน้ำนมวัว ในเด็กที่แพ้นมวัว และ แพ้แลคโตสในนม เราสามารถใช้น้ำนมถั่วเหลืองชดเชยได้
•ใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะถั่วเหลืองมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบน้อย และยังไม่มีคอเลสเตอรอล

5.กล้วยหอม ถือเป็นผลไม้คลายความเครียดชั้นดีกล้วยหอมช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนินให้กับสมองและยังช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มพลังให้กับร่างกายเราด้วย

6.สตรอเบอรี่สีแดง มีสารแอนโทไซอะนิน จัดเป็นแอนติออกซิเดนท์ที่ทรงพลัง ช่วยดูแลเซลส์สมอง ดูแลสายตา ป้องกันโรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ กำราบโรคมะเร็ง ส่งเสริมการทำงานของสมอง ลดความดันโลหิต ปราบโรคหัวใจ

7.ผักปวยเล้ง มีกรดโฟลิกสสูงมาก ช่วยให้อารมณ์ดี หลับง่ายป้องกันโรคซึมเศร้า ประสาทหลอนและความจำเสื่อมผักป๋วยเล้งมีคุณสมบัติเย็น รสหวาน สรรพคุณบำรุงเลือด ห้ามเลือด รักษาอาการเลือดกำเดาออก อุจจาระเป็นเลือด ท้องผูก