เรื่อง รายงานการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางศริยา นาวัน ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนวัดพรหมเกษร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1
บทคัดย่อ
หนังสือส่งเสริมการอ่าน เป็นสื่อการเรียนการสอนที่มุ่งหวังในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนของนักเรียนให้เพิ่มมากขึ้น ผู้เรียนเกิดความพึงพอใจและมีความสุขในการเรียนตามความ มุ่งหมายของหลักสูตรในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รายงานการศึกษาครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ระหว่างก่อนและหลังการเรียน โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนวัดพรหมเกษร อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จำนวน 20 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1)หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี จำนวน 7 เล่ม 2) คู่มือการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี
สถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และค่าทดสอบที (t-test Dependent) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพ (E1/ E2) ของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี ทั้ง 7 เล่ม มีค่าเท่ากับ83.71/83.25
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนและหลังการเรียน โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดี พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 13.55 และหลังเรียนเท่ากับ 16.55 ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ธรรมะเด็กดีในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x= 4.61,S.D = 0.37) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า เนื้อเรื่องน่าสนใจ และนักเรียนชอบนำหนังสือมาอ่านนอกเวลาเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( x มีค่าเท่ากับ 4.83
S.D มีค่าเท่ากับ 0.36)
|