เเคป่า

เเหล่งที่มา : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/179/34179/images/f.jpg
แคป่า
ชื่อท้องถิ่น: ต้นแคป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dolichandrone serrulata
ชื่อวงศ์: BIGNONIACEAE
ลักษณะวิสัย/ประเภท: ไม้ยืนต้น
ชื่ออื่น : แตเก็ดถวา แคขาว (เชียงใหม่) แคทราย (นครราชสีมา) แคแน แคฝอย (ภาคเหนือ) แคป่า (ร้อยเอ็ด ลำปาง) แคพูฮ่อ (ลำปาง) แคยอดดำ (สุราษฎร์ธานี) แคยาว แคอาว (ปราจีนบุรี)
แหล่งที่พบ : ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก
ประเภทไม้ : ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางผลัดใบ สูง 10-20 เมตร ลำต้นตรงมักแตกกิ่งต่ำ
ลักษณะพืช: ต้นแคป่า
เปลือก : สีน้ำตาล อมเทาและมีประสีดำขาว เปลือกเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ ทั่วไป
เปลือกในสีนวลหรือสีน้ำตาลปนเหลืองอ่อน เรือนยอดเป็นพุ่มรูปไข่ค่อนข้างทึบ
กิ่งอ่อน : เกลี้ยง มีช่องระบายอากาศทั่วไปกิ่งแห้งออกสีดำ
ใบ : เป็นช่อ ช่อใบติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ช่อใบรูปขนนก ยาว 12-35 ซม.
ใบ ช่อหนึ่งๆ มีใบย่อยรูปรีหรือ รูปรีแกมรูปไข่กลับ 3-7 ใบ ใบย่อยจะติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ส่วนปลายสุดของช่อใบจะเป็นใบเดี่ยวๆ ยาว 5-10 ซม. กว้าง 3-5 ซม. โคนใบสอบและเบี้ยว ปลายใบสอบเรียวแหลม เนื้อใบบางเกลี้ยง เส้นแขนงใบมี 5-7 คู่ มีตุ่มหูดรูปรีๆ ตามยาว เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบทางด้านท้องใบ ขอบใบหยักตื้นๆ หรือเรียบ ก้านใบย่อยยาว 1-3 ซม.
ดอก : ดอกโตสีขาว รูปแจกันทรงสูงหรือรูปแตร ออกรวมกันเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่ง ช่อดอกแบบติด ดอกสลับ ยาว 2-3 ซม. แต่ละช่อมีดอกอยู่รวมกัน 3-7 ดอกกลีบฐานดอกทรงรูปกรวย ยาว 3-5 ซม. ปลายด้านหนึ่งจะเป็นจงอยผิวคล้ำ โคนกลีบดอก ติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกตอนครึ่งล่างส่วนครึ่งบนจะบานโป่งออก ทั้งหมดยาว 11-19 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ แผ่กว้างตั้งฉากกับตัวหลอดเมื่อ บานเต็มที่กว้างถึง 8 ซม. ผิวกลีบและขอบกลีบจะย่นเป็นริ้ว เกสรตัวผู้มี 2 คู่ สั้นหนึ่งคู่และยาวหนึ่งคู่ ติดอยู่โคนผนังกลีบดอกด้านใน รังไข่รูปขอบขนานภายในมี 2 ช่องแต่ละช่อมีไข่อ่อนมาก ผล เป็นฝักชนิดเปลือกแข็ง 2 ชั้น รูปขอบขนาน ปลายแหลมยาวถึง 85 ซม. กว้าง 1.2-2 ซม. ฝักคดโค้งหรือบิดไปมา ผิวหนา เรียบและแข็งเป็นแผ่นหนัง จะมีจุดประสีอ่อนกว่าสีพื้นทั่วไป
เมล็ด : แบนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บาง เรียงตัวตามความยาวของฝัก มีเยื่อบางๆ ติด
บริเวณหัวและท้ายของเมล็ดคล้ายปีก ยาว 2.2-2.8 ซม. กว้าง 5-8 มม.
การขยายพันธุ์ : เมล็ด ปักชำราก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม : เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด
ฤดูกาลที่ใช้ประโยชน์ : เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม
เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทำการคัดลอกมาแล้วไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนด้วย ดูรูปแบบการทำเอกสารอ้างอิงได้ที่
http://www.thaigoodview.com/node/99177
มิฉะนั้นทางเว็บ thaigoodview.com จำเป็นต้องลบข้อมูลทั้งหมดออก
ขอขอบคุณ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ผู้ดูแลเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิว
ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่าคัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง
ช่วยกันนะครับ
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ