ประวัติซูชิ

credit : http://www.lekcooking.com/images/sushi-2.jpg
ซูชิ (ญี่ปุ่น: 寿司 sushi ซุชิ และมีการเขียนหลายแบบ ได้แก่ すし、鮨、鮓、寿斗、寿し、壽司 ) หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ (寿司飯, ข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่างๆเป็นหน้า ที่นิยมได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบ หรือ เนื้อที่ผ่านกระบวนการทำอาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น และซูชิส่วนใหญ่มักใส่วาซาบิ บนข้าวเพื่อให้ได้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น
credit : http://board.postjung.com/data/671/671915-topic-ix-5.jpg
http://board.postjung.com/data/671/671915-topic-ix-3.png
ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น และซูชิก็ไม่น่าจะใช่อาหารญี่ปุ่นแท้ๆด้วย เชื่อกันว่าน่าจะนำเข้าจากเมืองจีนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 7 เนื่องจากมีเอกสารโบราณเก่าแก่ของจีนกล่าวถึงอาหารประเภทที่มีหน้าตาเหมือนกับซูชินี้เอาไว้ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 2 อาหารดังกล่าวเป็นปลาเค็มที่ใช้ข้าวเป็นตัวหมักจะนำมากินก็ต่อเมื่อปลาได้ที่แล้ว และกินเฉพาะแต่ปลาเท่านั้นส่วนข้าวนั้นเอาไปทิ้ง
credit : http://adosushi.com/sushi.php
ประเภทของซูชิ
1. นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) เป็นซูชิพบได้บ่อยในภัตตาคาร ซูชิจะมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบนอาจจะใส่วา ซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
credit : http://uc.exteenblog.com/nunnut/images/zushi4.jpg
credit : http://uc.exteenblog.com/nunnut/images/zushi5.jpg
2. มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน (1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก
(2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก
(3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
credit : http://nanbd42.files.wordpress.com/2012/01/21.jpg?w=300&h=155
credit : http://www.rumruay.com/img/cd6/89b/cd689b87d34d4bb19c67d34cb455d957_0.jpg
credit : http://4.bp.blogspot.com/_90jtHjhh0uw/SvovyvNdycI/AAAAAAAAALA/WVBPg6S3des/s320/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B4.jpg
3. ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
credit : http://img.photobucket.com/albums/v488/ryochiku/JAPAN/Tsuki03.jpg
http://oishidrink.com/2011/includes/totallyjapanese/tasty/08-1/2.jpg
4. โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
credit : http://oishidrink.com/2011/includes/totallyjapanese/tasty/08-1/3.jpg
http://bjw6212.orgfree.com/images/sushi5.jpg
5. อินะริซูชิ (Inari Sushi) ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง
credit : http://www.bloggang.com/data/t/tao-yiipun/picture/1258613246.gif
http://farm3.static.flickr.com/2482/4031671266_75402d3f2d.jpg
6. สุงะตะซูชิ (sugata sushi) ซูชิที่ใช้ปลาทั้งตัวมาหั่นแล้วนำเนื้อมาวางบนข้าว
credit : http://oishidrink.com/2011/includes/totallyjapanese/tasty/08-1/5.jpg
http://anngle.org/th/wp-content/uploads/112KM003-PICT0105_PICT0105.jpg
7. นาเระซูชิ (naresushi) เป็นซูชิแบบดั้งเดิมครับหรืออีกชื่อเรียกว่า "ฟูมะ ซูชิ" วิธีการคือ นำปลาไปขอดเกล็ดและเอาเครื่องในออก จากนั้นก็อัดเกลือใส่เข้าไปให้เต็ม ตามด้วยนำไปใส่ไว้ในถังไม้ จากนั้นก็โปะเกลืออัดเข้าไปให้เต็มถัง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการนำหินหมัก (หินที่หนักมากๆ) มาวางปิดฝาทิ้งเอาไว้ เพื่อรีดน้ำทั้งหมดออกมา การหมักจะหมักไว้ 6 เดือน ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะนำไปกินกันได้นานถึง 6 เดือนเลยครับ แต่เขาว่ามันเหม็นมาก คนญี่ปุ่นบางคนยังไม่กล้ากินกันเลยก็มี
credit : http://photos.metrojacksonville.com/Dining/Narezushi/i-dFVhxvj/0/O/makinghorrible1.jpg
credit : http://photos.metrojacksonville.com/Dining/Narezushi/i-qrjpSGQ/0/O/makinghorrible2.jpg
credit : http://photos.metrojacksonville.com/Dining/Narezushi/i-wfh6htC/0/O/makinghorrible3.jpg
credit : http://photos.metrojacksonville.com/Dining/Narezushi/i-Wc84vX7/0/O/makinghorrible4.jpg
8. โอะนิงิริ (おにぎり, 御握り) หรือ โอะมุซุบิ (おむすび) คือข้าวปั้นของญี่ปุ่นที่มีลักษณะสามเหลี่ยมหรือวงรี โดยห่อด้วยสาหร่าย(โนะริ) โดยในสมัยก่อนโอะนิงิริจะมีไส้บ๊วยเค็ม(อุเมะโบะชิ) ปลาเค็ม (ชะเกะ หรือ คัทซึโอะบุชิ) หรือไส้ที่มีรสชาติเค็มต่างๆ โอะนิงิริแตกต่างกับซูชิตรงที่ข้าวในซูชิจะมีรสเปรี้ยวซึ่งมีน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น(ซูชิเมะชิ)เป็นส่วนผสม
credit : http://www.jat-languagecafe.com/newsite/pic/oningiri3.jpg
http://paggiehoontrakul.files.wordpress.com/2010/08/onigiri03.jpg?w=300&h=228
หน้าต่างๆของซูชิ
ปลาแซลมอน
credit : http://www.bloggang.com/data/k/kklife/picture/1249204986.jpg
ปลาโอ
credit : http://s3.amazonaws.com/foodspotting-ec2/reviews/441857/thumb_600.jpg?1300722521?1372431600
ปลาทูน่า
credit : http://photo.wongnai.com/photos/2012/05/27/e87aa99854e441beb5e7834a4d1a97a0.jpg
ไข่หวาน
credit : http://www.maipaimairoo.com/wp-content/uploads/2008/12/takumi-13.jpg
ไข่กุ้ง
credit : http://food.mthai.com/wp-content/uploads/2012/10/tobiko1.jpg
ไข่ปลาแซลมอน
credit : http://www.beertown.net/images/catalog_images/m_1308555281.jpg
หนวดปลาหมึกยักษ์
credit : http://mw2.google.com/mw-panoramio/photos/medium/52144423.jpg
กุ้ง
credit : http://dtf.ran4u.com/userfiles/fckeditor/7829/image/original_Shrimp.jpg
ยำสาหร่าย
credit : http://www.beertown.net/images/catalog_images/l_1308113253.jpg
ปลาซาบะ
credit : http://img7.imageshack.us/img7/9733/img1427rq.jpg
ปลากะพง
credit : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/571/36571/images/kloy/501.JPG
ไข่หอยเม่น
credit : http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Tip/Uni.png
แตงกวาดอง
credit : http://f.ptcdn.info/241/006/000/1371317139-DSC05428re-o.jpg
ปลาไหล
credit : http://photo.wongnai.com/photos/2013/04/12/a7005f46cc534a15b76069990dadf2b5.jpg
ขอบพระคุณค่ะ
นางสาว พรญานี ชวนชาติ
แหล่งอ้างอิง
http://adosushi.com/sushi.php
http://www.slideshare.net/ak23/ss-3464975,http://th.wikipedia.org/wiki/
http://www.lekcooking.com/view_story.php?id=13

- ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น