

ดอกผกากรองเป็นสารมีพิษและสรรพคุณโดย ที่ใบมีสารพิษคือแลนทานิน (Lantanin) เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงมาก โดยเฉพาะพวกแพะและแกะ พิษของผกากรองจะมีผลต่อระบบประสาทและจะส่งผลต่อตับ เมื่อสัตว์เลี้ยงกินเข้าไปจำนวนมากจะทำให้ตายได้
เป็นสารกลุ่มไตรเทอร์ปีน ได้แก่ lantadene A หรือ rehmannic acid, lantadene B และ lantadene C
อาการพิษที่เกิดขึ้นในคน
ผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากผกากรองมักไม่แสดงอาการพิษทันที แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง อาการพิษที่เกิดขึ้น ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ขาดออกซิเจน หายใจช้าและลำบาก รูม่านตาขยาย กลัวแสง กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
อาการพิษที่เกิดขึ้นในสัตว์
มีพิษกึ่งเฉียบพลันในสัตว์ทดลองที่กินใบผกากรอง คือ ซึม ไม่อยากอาหาร ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย หลังจากนี้ 1-2 วัน จะพบอาการเหลือง และขาดน้ำ ตามเนื้อเยื่อเมือก กล้ามเนื้ออักเสบ ตาอักเสบ ผิวหนังไวต่อแสง ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เจ็บ อาการอักเสบอาจลุกลามไปถึงโพรงจมูก ตา ปาก เกิดเป็น แผลบวม ปลายจมูกแข็ง หนังตาบวม หูหนาและแตก คันหน้าจนสัตว์เลี้ยงถูบ่อยทำให้เป็นแผลหรือตาบอดได้ โดยมากได้รับพิษประมาณ 1-4 อาทิตย์ อาจตายได้ เนื่องจากไตล้มเหลว ปัสสาวะไม่หยุด อดอาหาร ขาดน้ำ ไม่มีการขับถ่ายมีการอักเสบของตับ มีอาการดีซ่าน ตับบวม ถุงน้ำดีโต ไตเหลือง บวม ฉ่ำน้ำ และลำไส้ใหญ่ไม่เคลื่อนไหว



การรักษาอาการพิษในคน หากรับประทานไปไม่เกิน 30 นาที ให้รับประทาน น้ำเชื่อม ipecac เพื่ออาเจียนเอาเศษชิ้นส่วนของพืชออกไป ผู้ใหญ่รับประทาน 2 ช้อน โต๊ะเด็กอายุ 1-12 ปี รับประทาน 1 ช้อนโต๊ะ หากไม่ได้ผลให้ทำการล้างท้อง ยกเว้นในเด็กที่ได้รับพิษเกินกว่า 3 ชั่วโมง อาจล้างท้องไม่ได้ผล จึงควรให้ยา corticosteroids, adrenaline ให้ออกซิเจน และรักษาตามอาการ
การรักษาอาการพิษในสัตว์เลี้ยง
ฤทธิ์ของผกากรองภายหลังการกินเข้าไป จะไปทำให้กระเพาะของสัตว์หยุดการเคลื่อนไหว จึงเป็นสาเหตุให้สารพิษเหลืออยู่ใน กระเพาะและดูดซึมอย่างต่อเนื่อง การแก้พิษโดยป้องกันไม่ให้พิษมีการดูดซึมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยให้ผงถ่าน ในปริมาณสูงร่วมกับสารละลายอิเลก โตรไลท์เพื่อไปกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวของกระเพาะ และทำให้ของเหลวกลับเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ควรรักษาอาการแพ้แสงแดดของ ผิวหนังด้วย มีรายงานการทดลองใช้เบนโทไนต์ (bentonite) รักษาอาการพิษแทนผงถ่าน พบว่าสัตว์ทดลองมีอาการดีขึ้นช้ากว่ากลุ่มที่ให้ผงถ่าน 3 วัน แต่ราคาของสารเบนโทไนต์ถูกกว่าผงถ่าน จึงถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาอาการพิษในสัตว์เลี้ยงวัว
โรงเรียนได้รับรางวัลหนึ่งโรงเรียนหนึ่งนวัตกรรมระดับเหรียญทองแล้ว
ขอให้นักเรียนทุกคนช่วยกันทำให้สมบูรณ์ดังนี้
1. มีเนื้อหาไม่น้อยกว่า 10 หน้า ทุกหน้าต้องมีแบนเนอร์บอกว่าหน้านั้นคืออะไร
2. เนื้อหาแต่ละหน้า มีภาพ หรือคลิปจาก YouTube ประกอบ พร้อมแหล่งอ้างอิงไว้ใต้ภาพ หรือคลิป
3. ภาพต้องตกแต่งสวยงามแล้วอับโหลดไว้ หากพื้นที่ไม่พอให้แจ้งที่ http://www.thaigoodview.com/node/40683
4. แหล่งอ้างอิงที่มาของข้อมูลครบถ้วน ไม่น้อยกว่า 5 แหล่ง
5. หน้าผู้จัดทำต้องมี
6. ฟอนต์ต้องถูกต้อง ข้อความต้องจัดเป็นระเบียบ
7. QR Code ต้องใส่ ถ้าไว้หน้าแรกจะดีมาก
8. ถ้ามีเส้นสวยงามไว้ข้างล่างทุกหน้าจะทำให้ดูดี
9. ถ้าทุกหน้ามีเมนูไปยังทุกหน้า จะทำให้เรื่องของเราสมบูรณ์มากๆ
นี่คือตัวอย่างที่ดี ซึ่งยังมีอีกหลายคนที่ทำดีมาก http://www.thaigoodview.com/node/157928
ขอบคุณนักเรียนทุกคน
เราเรียนเพื่อทำประโยชน์ต่อสังคมเป็นเป้าหมายหลัก
ตรวจครั้งที่ 1 ผ่าน