กระชายดำ สมุนไพรใกล้ตัว

ชื่อพื้นเมือง : กระชายดำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker.
ชื่ออื่น : ว่านจังงัง ว่านพญานกยูง ว่านกั้นบัง ว่านกำบัง ว่านกำบังภัยกะแอน ระแอน (ภาคเหนือ) ขิงทราย (มหาสารคาม)
ชื่อสามัญ : Belamcanda chimensis
ชื่อพ้อง : K. rubromarginata (S.Q. Tong) R.J. Searle, Stahlianthus rubromarginatus S.Q. Tongl.
ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
เป็นพืชล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน รากสะสมอาหารมีลักษณะเป็นปุ่ม ๆ ไม่ยาวเป็นหางไหลเหมือนกับกระชาย ธรรมดา ขณะต้นเล็ก จะมีแต่รากและรากนั้นเองจะเปลี่ยนเป็นหัวเมื่อโตขึ้น เนื้อในหัวอาจเป็นสีม่วงหม่นหรือสีดำดังผลลูกหว้า แต่ถือกันว่ากระชายดำที่มีคุณสมบัติที่ดีต้องสีดำสนิท ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับคล้ายกระชายธรรมดา แต่มีใบใหญ่และเขียวเข้มกว่าผลิแทงม้วนเป็นกรวยขึ้นมาจากราก ไม่มีต้น ดอก จะออกดอกจากยอดของต้น ช่อละหนึ่งดอก มีใบเลี้ยงที่ช่อดอก ริมปากดอกสีขาว เส้นเกสรสีม่วง และเกสรมีสีเหลือง
ต้น กระชายดำเป็นพรรณไม้ล้มลุก ขนาดลำต้นสมบูรณ์เต็มที่สูงประมาณ 30 ซม. ส่วนของแกนกลางลำต้นจะมีลักษณะแข็ง มีกาบใบที่อาบหนา นุ่ม หุ้มแกนลำต้นไว้ ลำต้นโดยรวมจะอวบอุ้มน้ำเหมือนกับพืชล้มลุกทั่วไป
ใบ ใบของกระชายดำ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกเรียงสลับซ้อนกันเป็นรูปกรวย และจะแยกออกจากกันเป็นอิสระเมื่อโตขึ้น สีของใบกระชายดำเมื่อเริ่มแตกใบอ่อนจะมีสีเข้มม่วงอมแดง และจะค่อยๆ สีจางไปเป็นสีเขียวเข้ม เส้นขอบใบจะมีสีแดงระเรื่อ หรืออมชมพูคล้ายรอยไหม้ กาบใบจะยาวเป็นร่อง แทงขึ้นมาจากหัวที่อยู่ในดิน ใบมีกลิ่นหอมเฉพาะขนาดของใบกว้างประมาณ 7-20 ซม. ยาวประมาณ 30-40 ซม.ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของ ธาตุอาหารในดิน หรือการดูแลรักษา
เหง้า รูปทรงกลม เรียงต่อกัน มักมีขนาดเท่าๆกัน หลายเหง้า อวบน้ำ ผิวเหง้าสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม อาจพบรอยที่ผิวเหง้าเป็นบริเวณที่จะงอกของต้นใหม่ เนื้อภายในสีม่วงอ่อน ม่วงเข้ม จนถึงสีม่วงดำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติขมเล็กน้อย
httpozenshop.comgallery_images112255510060
การขยายพันธุ์ : ใช้วิธีการแบ่งเหง้า และโดยการใช้หัวหรือเหง้าปลูก
ฤดูกาลขยายพันธุ์ : ทำได้ทั้งปี ชอบที่ร่ม ดินร่วนซุยหรือดินปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี
httpextra.in.thwp-contentuploads201307blackgalingle5002.jpg
ฤดูปลูก ปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูปลูกที่เหมาะสมอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม
วิธีการปลูกกระชายดำ : จะใช้ หัวพันธุ์, ต้นพันธุ์ หรือแบ่งเหง้าจากต้นที่เติบโตสมบูรณ์แล้ว นำมาปลูก สามารถปลูกในกระถางเพื่อเป็นไม้ประดับหรือปลูกรวมกับว่านชนิดอื่น ๆ ในลักษณะของรังว่านก็ได้ กระชายดำเป็นพืชที่ปลูกง่ายขึ้นได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ดี มีอินทรีย์วัตถุสูง ควรเป็นดินร่วนปนทรายเช่น ดินขุยไผ่ ชอบที่ร่มแสงร่มรำไร การดูแลรักษาก็ง่าย แค่รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะ ดายหญ้าและคอยกำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักตามสมควร หรือหากดินที่ปลูกอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วอาจไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลยก็ได้ ส่วนแมลงรบกวนนั้นเท่าที่ทราบมาก็มีแต่หอยทากเท่านั้นที่จะมากินใบของกระชายดำ ปัญหาที่พบมากคือเมื่อมีน้ำท่วมขังหรือฝนตกชุกมาก เหง้าของกระชายดำจะเน่า แต่การยกร่องก่อนปลูกจะช่วยได้มาก หากพื้นที่ที่จะปลูกเป็นที่ลาดชัน (slope)อาจไม่ต้องยกร่องก็ได้
การปลูกลงในกระถาง
ควรใช้กระถางที่มีขนาดกลาง -ใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 - 18 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่ในการขยายหัวหรือเหง้า ใส่วัสดุปลูกให้มาก ๆ ประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของกระถาง (ปุ๋ยคอก 1 ส่วน/ดิน 2 ส่วน) จะทำให้ได้หัวที่มีคุณภาพและมีปริมาณหัวต่อต้นมาก การปลูกในกระถางควรใช้หัวหรือเหง้า ประมาณ 3 - 5 หัว(แง่ง) แล้วแต่ขนาดของกระถาง
การปลูกลงแปลง
ต้องเตรียมแปลงปลูก โดยการพรวนดินตากแดดทิ้งไว้นาน 5 -7 วัน เพื่อปรับสภาพดิน ยกร่องกว้างประมาณ 1.50 เมตร ขุดหลุมลึกประมาณ 10 - 15 ซม.ใส่ปุ๋ยคอกให้พอเหมาะ แล้วทำการปลูก ระยะห่างระหว่างหลุมและแถวประมาณ 30 X 30 ซม. ใส่หัวหรือเหง้า 2 -3หัว(แง่ง) ต่อหลุม แล้วกลบหลุมรดน้ำให้ชุ่ม
http4.bp.blogspot.com-pPpeWxQpbX8T3QYWjU1a
การปลูกในไร่ (กรณีปลูกปริมาณมากๆ)
การเตรียมดิน ควรไถ 2 ครั้ง ครั้งแรกไถพรวนเพื่อย่อยดิน ทำการยกร่องปลูก ระหว่างต้นประมาณ 25 - 30 ซม. ก่อนปลูกควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 200 - 400 กก./ไร่ ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน วิธีการปลูกก็โดยฝังเง้าหรือหัวพันธุ์ลงในหลุมปลูกลึก ประมาณ 5 - 10 ซม.ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 160 - 200 กก.
การดูแลรักษา
เมื่อต้นกระชายดำอายุได้ 1 เดือน ควรดายหญ้ากำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1,000 กก./ไร่ ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพราะจะทำให้หน่อกระชายดำที่เกิดใหม่ยาว และสีของหัวกระชายดำไม่ดำ ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไป และเมื่อต้นกระชายดำอายุได้2 เดือน ให้พรวนดินกลบโคนต้นควรมีการปลูกซ่อมในหลุมที่ไม่งอก
การเก็บเกี่ยว
เมื่อกระชายดำอายุได้ 10 -12 เดือน สังเกตจากใบและลำต้นจะเริ่มเหี่ยวแห้งและหลุดออกจากต้น ระยะนี้ คือ ระยะพักตัวของกระชายดำเพราะจะทำให้กระชายดำมีโอกาส ได้สะสมอาหารและตัวยาได้เข้มข้นอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะขยายพันธุ์ต่อไป จึงเป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้ดี ทำให้ได้กระชายดำที่มีคุณภาพดี กระชายดำที่ปลูกในเขตพื้นที่อำเภอนาแห้ว - อำเภอภูเรือ จะได้รับผลผลิตประมาณ 650 - 900 กก./ไร่
การเก็บรักษาพันธุ์ : กระชายดำที่แก่จัดจะมีอายุประมาณ 11 - 12เดือน หัวจะต้องสมบูรณ์ อวบใหญ่ปราศจากเชื้อโรค เก็บไว้ในที่แห้งและเย็นนาน ประมาณ 1 - 3เดือน จึงจะนำไปปลูกต่อได้
httpwww.healthshop2u.comimagecachedata1223995868-500x500.jpg
สรรพคุณ:
1. กระชายดำใช้บำรุงกำลัง
2. แก้ปวดเมื่อย และแก้อาการเหนื่อยล้า
3. กระชายดำช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
4. ช่วยขับลม
5. เป็นยาอายุวัฒนะ (เชื่อว่าช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศชาย)
6. แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง ใช้เหง้าและราก ประมาณครึ่งกำมือ (สดหนัก 5- 10 กรัม, แห้ง 3-5 กรัม) ต้มเอา
น้ำดื่ม หรือใช้ปรุงเป็นอาหารรับประทาน
7. กระชายดำขับปัสสาวะ
8. หรือโขลกกับเหล้าขาวคั้นน้ำดื่ม แก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อน
9. ใช้กวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางในเด็ก
10. ต้มดื่มแก้โรคตา
11. กระตุ้นระบบประสาท
12. รักษาสมดุลความดันโลหิต
13. กระชายดำช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ ใช้เหง้าและรากกระชายปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด หั่นตากแห้ง
บดเป็นผง ใช้ผงแห้ง 1 ช้อนชา ชงน้ำร้อน ½ ถ้วยชา รับประทานครั้งเดียว
14. โรคเก๊าท์
15. ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร
16. รักษาระบบการย่อยอาหารให้เกิดสมดุลย์
17. แก้โรคบิดแก้บิด ใช้เหง้าสด 2 เหง้า บดให้ละเอียด เติมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
18. รักษาผู้ป่วยเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด
19.แก้ท้องร่วงท้องเดิน ใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ตำหรือฝนเหง้าที่ปิ้งไฟแล้วกับน้ำปูนใส หรือคั้นให้ข้นๆ
รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนแกง
20.ยารักษาริดสีดวงทวารใช้เหง้าสด 60 กรัม ประมาณ 6-8 เหง้า ผสมกับเนื้อมะขามเปียก 60 กรัม เกลือ
แกง 3 ช้อนแกง ตำแล้วต้มกับน้ำ 6 แก้ว เคี่ยวให้เหลือ 2 แก้ว รับประทานครั้งละ ½ แก้ว ก่อนนอน
รับประทานติดต่อกัน 1 เดือน ริดสีดวงทวารควรจะหาย
httpwww.igetweb.comwwwcointhaigallery427271.jpg httpwww.weloveshopping.comshoppaulenagoldA0003.jpg
ที่มา:
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_1.htm
http://www.bookmuey.com/?page=KaempferProperties.html&admintool=no
http://sunyala.tripod.com/kc01.htm
ขอบคุณครับ
เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทำการคัดลอกมาแล้วไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย มิฉะนั้นทางเว็บ thaigoodview.com จำเป็นต้องลบข้อมูลทั้งหมดออก
ขอขอบคุณ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ผู้ดูแลเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิว
ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่าคัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง
ช่วยกันนะครับ
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ