ดอกปีบ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของดอกปีบค่ะ .... มาเริ่มทำความรู้จักดอกไม้ชนิดนี้กันเลยนะคะ
ปีบ หรือ กาซะลอง (อังกฤษ: Indian cork tree; ชื่อวิทยาศาสตร์: Millingtonia hortensis Linn.f) เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 15 เมตร มีดอกรูปแตรสีขาวหอมอ่อนๆ
ดอกปีบ, ดอกปีป
ที่มาของรูป http://4.bp.blogspot.com/-XUqmPvuDGjE/UTcCvcnhRzI/AAAAAAAAE5M/r4CuCZUBcf...
ชื่อสามัญ Cork Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ Millingtonia hortensis Linn. F.
วงศ์ BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น กาซะลอง กาดสะลอง (ภาคเหนือ), เต็กตองโพ่ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปีบ (ภาคกลาง)
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นสูงประมาณ 10–20 เมตร
เปลือกลำต้นสีเทา ขรุขระ ใบออกเป็นช่อ ลักษณะใบกลมรี ขอบใบเรียบ โคนใบมนใต้
ใบเห็นเส้นใบชัดเจน ดอกออกเป็นช่อ ตั้งตรงลักษณะเป็นท่อยาวประมาณ 2–3 นิ้ว
สีขาวปนเหลืองขนาด 2 เซนติเมตร ปลายกลีบดอกเป็นแฉก 5 แฉก ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้
และเกสรตัวเมียติดอยู่ด้านในใกล้ปากท่อผลมีลักษณะเป็นฝักแบน ภายในมีเมล็ดลักษณะแบน
ถิ่นกำเนิด ไทย, พม่า
การเป็นมงคล
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นปีบไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มาก เพราะ ปีบ คือ ภาชนะที่ใช้ในการ
บรรจุของ ดังนั้นคนไทยโบราณเรียกภาชนะใส่ของที่มีค่าว่า ปีบเงิน ปีบทอง นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าสามารถทำให้มีชื่อเสียง
โด่งดัง เพราะปีบมีลักษณะแข็งและโปร่ง เวลาเคาะหรือตีจะเกิดเสียงดังไปไกล
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นปีบไว้ทางทิศตะวันตกผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่า
การปลูกไม้เพื่อเอาคุณ ทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ถ้าจะให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้ที่เกิดในวันจันทร์ เพราะ
ปีบเป็นดอกไม้ประจำของนางโคราคะเทวีซึ่งเป็นนางประจำวันจันทร์ในธิดาของพระอินทร์นอกจากนี้ถ้าหากผู้อาศัยในบ้าน
เกิดในวันจันทร์ด้วยแล้วก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น
การปลูก
นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
: ดินร่วนอัตรา 1:2 ผสมดินปลูกถ้าปลูกประดับบ้านเรือนหรืออาคารควรปลูกให้มีระยะห่างที่เหมาะสมเพราะปีบเป็นไม้ที่มี
ทรงพุ่มใหญ่พอสมควร
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1: 3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-5 ครั้ง
การขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด และการปักชำ
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะมีความทนทานสภาพธรรมชาติได้ดี
นาฬิกาชีวิต (BIOLOGICAL CLOCK) | ThaiGoodView.com Knowledge for Thai Student
เก็บดอกที่ร่วง (ดอกสะอาด) เอามาตากแดด (อย่าใช้แดดจัด) และตากให้แห้งสนิท จะได้ไม่ขึ้นรา นำมามวนใบตอง
แล้วสูบ ช่วยบรรเทาอาการโรคหอบหืด ขยายหลอดลม และริดสีดวงจมูก หรือตากแห้งแล้วเอามาชงน้ำดื่ม บำรุงปอด
วิธีและปริมาณที่ใช้
แก้ หอบหืด ใช้ดอกแห้ง 6-7 ดอก มวนเป็นบุหรี่สูบ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสกัดส่วนต่าง ๆ ของปีบ เพื่อหาส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์ในการรักษา ตรวจพบสาร Scutellarein และ Scutellarein-5-galactoside จากดอกปีบ ต่อมาตรวจพบว่าในใบ มีสาร hispidulin ในผล พบ acetyl oleanolic acid ในดอก มีสาร Scutellarein, hispidulin และ Scutellarein-5-galactoside ในราก พบสาร hentriacontane, lapachol, hentria contanol-1, B-stosterol และ paulownin
ดอกปีบ
เปลือก (bark) ใช้ทำจุกก๊อก ที่มาของชื่อ Cork Tree
ใน ส่วนของแก่นไม้และเปลือกของต้น พบสาร B-stosterol นำมาสก้ดออกจากดอกปีบแห้งโดยนำสารสกัดด้วย methanol มาแยกลำดับส่วนด้วย ปีโตรเลียมอีเธอร์ คลอโรฟอร์ม บิวธานอล และน้ำ นำส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มาทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา พบว่าส่วนสกัดจากคลอโรฟอร์มจะมีฤทธิ์ขยายหลอดลม ในขณะที่ส่วนสกัด Butanol และน้ำ จะมีฤทธิ์ทำให้หลอดลมหดตัว และพบว่าส่วนสกัดแยกส่วนด้วย Butanol จากสารสกัดด้วยน้ำ มีฤทธิ์ขยายหลอดลม จากการศึกษานี้ จึงเชื้อว่า hispidulin มีบทบาทสำคัญในการขยายหลอดลม
ซึ่งขณะนี้กำลังมีผู้วิจัยศึกษาถึงฤทธิ์ขยายหลอดลมในร่างกายของสัตว์ทดลอง
สำหรับ การศึกษาในด้านความปลอดภัยของการใช้ดอกปีบในการรักษา ได้ศึกษาพิษเฉียบพลัน (acute) และกึ่งเฉียบพลัน (Subacute toxicity) อย่างไรก็ตาม การที่จะอธิบายได้ว่าผลที่เกิดขึ้นนี้ จากสารสกัดตัวใดนั้น ยังให้คำตอบไม่ได้ ต้องศึกษาสาระสำคัญแยกกันไป แม้ว่า hispidulin จะเป็นสาระสำคัญตัวหนึ่งที่แยกได้จากส่วนของคลอโรฟอร์ม พบว่าสาร hispidulin ที่มีปรากฏอยู่ในส่วนสกัดจากคลอโรฟอร์มนั้น จะปรากฏอยู่ประมาณ 0.364% W/W ดังนั้นจึงควรทำการศึกษาพิษของ hispidulin ที่แยกให้บริสุทธิ์
แล้วจึงจะให้คำตอบที่ชัดเจนและถูกต้อง
การศึกษาฤทธิ์อื่น ๆ ของสาร hispidulin และสารอื่น ๆ ที่แยกได้จากปีบ ควรที่ได้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมตลอดจนกลไกที่เกี่ยวข้อง
กับการออกฤทธิ์นั้นเพื่อประเมินศักยภาพของปีบ ในการนำมาใช้ในการรักษาหอบหืดในอนาคต
http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard
ปีบ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีทรงต้นสวย ดอกหอม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ และเป็นไม้เกาะกลางถนน เหตุผลที่กรมทางหลวงเลือก "ปีบ" เป็นไม้เกาะกลางถนน เพราะเป็นไม้ป่าธรรมชาติซึ่งมีถิ่นกำเนิดในพม่าและไทย ทนต่อสภาพแห้งแล้ง มีลำต้นเดี่ยวไม่บังสายตา ตัดทอนยอดเป็นการควบคุมความสูง และให้เกิดพุ่มต้นแน่น มีกลิ่นหอม ใบละเอียด แสงส่องถึงพื้นได้ ไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของพื้นหญ้าหรือพืชคลุมดินอื่น ๆ ที่ปลูกใต้ต้น เมื่อใบและดอกร่วงหล่นก็จะม้วนงอละเอียด และปลิวออกข้างทาง ไม่ทำให้ผิวจราจรสกปรก
ดอกปีบสัญลักษณ์ของพยาบาลไทย
สภาการพยาบาลได้กำหนดให้ใช้ "ดอกปีบ" เป็น สัญลักษณ์ของพยาบาลไทย ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา เนื่องจากดอกปีบเป็นดอกไม้สีขาวที่มีกลิ่นหอม ต้นปีบเป็นไม้ยืนต้น ขึ้นได้ในที่ดินแห้งแล้ง ราก ลำต้น และดอกใช้เป็นสมุนไพรได้ เปรียบกับพยาบาลในชุดสีขาวผู้พร้อมที่จะประกอบคุณงามความดี ประดุจกลิ่นหอมของดอกปีบ และพร้อมที่จะสร้างประโยชน์เช่นเดียวกับการเป็นสมุนไพรของดอกปีบนั่นเอง
แหล่งอ้างอิง
1.http://www.prachinburi.go.th/flower.htm
2. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%9A
3. http://www.kasetporpeangclub.com/forums/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B...