วิเชียรมาศ...แมวไทยโกอินเตอร์

แมวพันธุ์ไทยแท้นั้นคนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมที่จะเลี้ยง แต่ว่ามันกลับโด่งดังและเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ ได้รับการยกย่องว่าเป็นแมวพันธุ์ดีอีกพันธุ์หนึ่งในโลก และมีความมหัศจรรย์กว่าพันธุ์อื่นๆ จนช่วงสมัยกรุงธนบุรีจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ลาวได้อพยพเข้ามาในไทย(สยามในตอนนั้น)พวกสัตว์ก็น่าจะมีการอพยพมาด้วยทำให้แมวไทยอาจจะมีสายเลือดแมวลาวปนอยู่ด้วย
ลักษณะนิสัยของแมวไทยที่โดดเด่นคือ อุปนิสัยฉลาด รักบ้าน รักเจ้าของ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักประจบ และที่สำคัญคือรักอิสระเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิคประจำตัวและทำให้แมวไทยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่ที่น่าแปลกคือ......ถึงแม้ว่าจะนำแมวไทยไปผสมกับแมวต่างชาติ ลูกของมันจะออกมามีลักษณะสีขนเหมือนแมวพันธุ์ไทย แต่กลับไม่ได้ลักษณะอุปนิสัยข้างต้นไปด้วย ยกเว้นแต่จะผสมกับแมวไทยด้วยกันเอง
ที่มา: http://www.bloggang.com/data/t/travelaround/picture/1249494703.jpg
เมื่อปี พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานแมวไทยคู่หนึ่งให้แก่ กงสุลอังกฤษชื่อนาย โอเวน กูลด์ (Owen Gould) นายโอเวน ได้นำแมวไทยคู่นั้นไปฝากน้องสาวที่อังกฤษ และอีกหนึ่งปีต่อมา แมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดแมวที่คริสตัลพาเลซ กรุงลอนดอน ปรากฏว่าชนะเลิศได้รางวัลที่หนึ่ง ทำให้ชาวอังกฤษพากันแตกตื่นเลี้ยงแมวไทยกัน จนมีสโมสรแมวไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 ชื่อว่า The Siamese Cat Clubs ต่อมาในปี พ.ศ. 2471 ได้มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรดิอังกฤษขึ้น หรือ The Siamese Cat Society of the British Empire ขึ้นมาอีกสมาคมหนึ่ง
ที่มา: https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/79/Allvar_Gullstrand.jpg/180px-Allvar_Gullstrand.jpg
แมวที่นายโอเวน กูลด์ นำไปจากประเทศไทยนั้น มีแต้มสีครั่งหรือน้ำตาลไหม้เก้าแห่ง คือหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หาง และอวัยวะเพศ ซึ่งถือว่าเป็นแต้มสีที่อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่เลอะเทอะเหมือนแมวพันธุ์อื่น และเมื่อนำแมวไทยไปผสมกับแมวพันธุ์อื่น จะได้แต้มสีตามร่างกายในตำแหน่งเดียวกัน แต่รูปร่างจะไม่สง่างามเท่า และอุปนิสัยจะไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งแมวไทยพันธุ์นี้เป็นพันธุ์แรกที่ชาวต่างชาติรู้จัก จึงมักเรียกกันทั่วไปว่า Siamese Cat หรือ Seal Point ส่วนในสมุดข่อยโบราณของไทยให้ชื่อแมวไทยลักษณะนี้ว่า "แมววิเชียรมาศ
ที่มา: http://sankaew-shop.weloveshopping.com/shop/client/000056/sankaew-shop/SiameseCat.jpg
สมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยไว้ถึง 23 ชนิดซึ่งเป็นแมวดี (แมวให้คุณ) 17 ชนิด และแมวร้าย (แมวให้โทษ) 6 ชนิด ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าแมวให้คุณ ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 13 ชนิด เหลืออยู่เพียง 4 สายพันธุ์เท่านั้น คือ วิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ โกนจา สีสวาด และไม่กี่ปีที่ผ่านมามีข่าวที่น่ายินดีเป็นที่สุดคือ ได้มีการค้นพบแมว แซมเสวตร ซึ่งเป็นแมว หนึ่งแมวให้คุณ 1 ใน 13 ชนิด ซึ่งเดิมทีเคยเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ทำให้แมวให้คุณเหลืออยู่ 5 สายพันธุ์ส่วน ขาวมณี หรือ ขาวปลอด นั้นถึงแม้ไม่มีปรากฏในตำราแมวไทย เพราะเชื่อว่าเพิ่งถือกำเนิดในต้นยุครัตนโกสินทร์นี่เอง แต่ก็จัดว่าเป็นแมวไทยมงคลด้วยเหมือนกัน
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=wn5_t4WHXX0
แมววิเชียรมาศ ตรงกับความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" หรือ "Moon Diamond" บางตำราก็เรียก "แมวแก้ว" ซึ่งก็ตรงกับคำว่า "วิเชียร" แมวชนิดนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมวเก้าแต้มเสมอ ที่จริงแล้วไม่ถูกต้อง แมวเก้าแต้มคือแมวที่มีสีพื้นสีขาว และมีแต้มบนร่างกาย 9 แห่ง เหตุที่มักเข้าใจผิดเพราะแมววิเชียรมาศ จะมีสีพื้นสีขาวงาช้าง (หรือโบราณจะเป็นขาวล้วนก็ไม่ทราบ) และมีแต้มที่จมูกครอบไปถึงปากเป็นหนึ่งแห่ง กับขาทั้งสี่ หูสอง หางหนึ่ง และที่อวัยวะเพศอีกหนึ่ง รวมเป็น 9 แห่งเช่นกัน ในแมววิเชียรมาศนี้แต้มตามตำราว่าไว้ว่าต้องเป็นสีดำดังหมึกวาด แต่ปัจจุบันเมื่อดูให้ดีแล้วจะเป็นแต้มสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ไม่ได้ดำสนิท หรือที่ต่างประเทศเรียกว่า Seal brown หรือแต้มสีครั่ง แมววิเชียรมาศเป็นที่รู้จักในต่างประเทศโดยใช้ชื่อว่า แมวสยาม (Siamese Cat) แต่ต่างประเทศจะมีแต้มสีอื่นที่หลากหลายกว่า ซึ่งประเทศไทยจะยอมรับเฉพาะแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้มเท่านั้น นัยน์ตาสีฟ้าก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของแมวชนิดนี้
ที่มา: https://jaruwunak.files.wordpress.com/2013/04/pic_cat_vichearmas_002.jpg
แมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นแมวมงคลตามตำรา มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธยา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดหนึ่ง เนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
ลักษณะโดยทั่วไป
*ลักษณะที่เป็นข้อเด่น*
ลักษณะสีขน: ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)
ลักษณะของส่วนหัว: รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
ลักษณะของนัยน์ตา: ตาสีฟ้า
ลักษณะของหาง: หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
*ลักษณะที่เป็นข้อด้อย*
หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง
นี่เป็นแมวไทยเพียง 1 ใน 17 สายพันธุ์ของแมวไทยโบราณเท่านั้นถ้าหากอยากได้ได้ข้อมูลของเพิ่มเติมจะอัพลงให้นะคร้าบบ~~
ที่มา:
http://pantip.com/topic/30148302
ผู้จัดทำ
นางสาวปารณีย์ กองเมือง
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพฯ
e-mail: pp_9956@hotmail.com
ไม่มีผู้จัดทำ