รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียน ชั้นปร
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสันต้นขาม
ผู้ศึกษา นางชลิตตา สมุดความ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องสมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องสมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องสมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสันต้นขาม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ปีการศึกษา 2557 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน จำนวน 15 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนอย่างละ 30 ข้อ 3) แบบสอบถามเจตคติที่มีต่อการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ จำนวน 15 ชุด มีค่าประสิทธิภาพ () เท่ากับ 86.22/81.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 6.78 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 22.59 โดยมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนเฉลี่ย () เท่ากับ 17.78 และ 24.56 คะแนน ตามลำดั
3. เจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีเจตคติต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการประกอบกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน คิดเป็นค่าเฉลี่ย () เท่ากับ 4.39 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () เท่ากับ 0.66 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก จึงทำให้นักเรียนมีความตั้งใจ สนใจเรียนมากขึ้น จึงทำให้เกิดผลการเรียนรู้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด