การดูแลรักษา

หน้าแรก
ลักษณะทั่วไป
การเพาะปลูก
การขยายพันธุ์
การดูแลรักษา
ลักษณะของรากลำต้น
ลักษณะของดอกผลเมล็ด
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางการรักษาโรค
คุณค่าทางเศรษฐกิจ
วิธีการ 1 : การดูแลเฟิร์นในบ้าน
ที่มาของภาพ : http://pad3.whstatic.com/images/thumb/8/86/Care-for-Ferns-Step-1-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-1-Version-2.jpg
1)เลือกสถานที่ที่เหมาะสม ต้นเฟิร์นเป็นไม้ที่ต้องการร่มเงาและแสงแดดร่ำไร ๆ (มากกว่าจะโดนโดยตรง) วางต้นเฟิร์นไว้ใกล้หน้าต่างที่อยู่ทางทิศเหนือเพราะหน้าต่างทางทิศตะวันออกและตะวันตกมีแสงแดดมากเกินไป หรือไม่ก็ตั้งไว้ใกล้หน้าต่างทางทิศใต้ก็ได้เช่นกัน วางต้นเฟิร์นให้ห่างจากหน้าต่างเล็กน้อย
ที่มาของภาพ : http://pad3.whstatic.com/images/thumb/8/87/Care-for-Ferns-Step-2-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-2-Version-2.jpg
2)รักษาความชื้นให้สูง เนื่องจากต้นเฟิร์นเป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูง วิธีการเพิ่มความชื้นนั้นมีอยู่สองวิธี คือ ซ้อนกระถางหรือไม่ก็ติดเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ การซ้อนกระถางทำได้โดยนำกระถางอีกใบที่ใหญ่กว่าใบที่ใส่ต้นเฟิร์นมาใส่มอสที่ชุ่มน้ำแล้วนำกระถางต้นเฟิร์นซ้อนลงไป เติมมอสและดินเพื่อปิดด้านบนให้ทั่ว แล้วหมั่นรดน้ำทุกสองสามวันเพื่อรักษาความชื้น
- ถ้าคุณมีเครื่องเพิ่มความชื่น ให้ตั้งเครื่องใกล้ ๆ กับต้นเฟิร์น
- คุณอาจจะใช้ขวดสเปรย์ใส่น้ำอุ่น ๆ ฉีดพ่นต้นเฟิร์น แต่ฉีดเพียงแค่สองสามวันครั้งก็พอ เพราะจะทำให้ใบขึ้นเป็นจุด
ที่มาของภาพ : http://pad2.whstatic.com/images/thumb/9/9d/Care-for-Ferns-Step-3-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-3-Version-2.jpg
3)รักษาอุณหภูมิให้คงที่ ต้นเฟิร์นชนิดที่ปลูกในบ้านส่วนใหญ่เป็นพืชเขตร้อน แม้ว่าเฟิร์นจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพอากาศเขตร้อนก็ตาม พยายามให้อุณหภูมิห้องบริเวณที่ปลูกเฟิร์นไว้อยู่ประมาณ 21 องศาเซลเซียส ต้นเฟิร์นสามารถทนอยู่ได้ที่อุณหภูมิต่ำๆ ถึง 15 องศาเซลเซียส แต่จะไม่สามารถเติบโตได้ดีเท่าไหรนัก ดังนั้น เมื่อไหรถ้าไม่แน่ใจให้ลองเพิ่มอุณหภูมิไว้ก่อน
- เฟิร์นเหมาะที่จะวางไว้ในห้องน้ำเพราะมีอุณหภูมิและความชื้นที่พอเหมาะ
ที่มาของภาพ : http://pad3.whstatic.com/images/thumb/9/9c/Care-for-Ferns-Step-4-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-4-Version-2.jpg
4)รดน้ำบ่อย ๆ เฟิร์นชอบอากาศชื้นและก็ชอบดินชื้น ๆ ด้วยเช่นกัน กระถางที่ปลูกเฟิร์นควรจะชื้น (แต่ไม่ถึงขั้นเปียกโชก) คุณควรจะรดน้ำบ่อย ๆ ทีละน้อย ไม่ใช่รดน้ำนาน ๆ ครั้งแต่รดน้ำมาก
ที่มาของภาพ : http://pad2.whstatic.com/images/thumb/1/15/Care-for-Ferns-Step-5-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-5-Version-2.jpg
5)ใส่ปุ๋ยให้ต้นเฟิร์นเดือนละครั้ง หาซื้อปุ๋ยสำหรับใส่ไม้ประดับในบ้านหรือสำหรับใส่เฟิร์นโดยเฉพาะตามร้านขายสินค้าเกษตร ให้พนักงานช่วยถ้าคุณไม่รู้เรื่องปุ๋ย ใส่ปุ๋ยให้เฟิร์นทุก ๆ เดือนเพื่อให้สารอาหารแก่ต้นเฟิร์นที่ในกระถางนั้นมีไม่ครบ อย่างไรก็ตามคุณควรรออย่างน้อยหกเดือนหลังจากปลูกต้นเฟิร์นลงกระถางก่อนที่คุณจะเริ่มใส่ปุ๋ย
ที่มาของภาพ : http://pad2.whstatic.com/images/thumb/a/a3/Care-for-Ferns-Step-6-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-6-Version-2.jpg
6)ตัดส่วนที่ตายออก ต้นเฟิร์นมีโอกาสที่จะเป็นโรคได้ แต่ส่วนใหญ่ต้นเฟิร์นมักจะทนและไม่ยอมตายทั้งหมดต้นในทันที ถ้าต้นเฟิร์นเริ่มตายให้ตัดส่วนที่ตายออกไม่ว่าจะตายเพราะโรคหรือการขาดการดูแลรักษา หากต้นเฟิร์นตายทั้งต้นก็ควรจะทิ้งไปก่อนที่มันจะแพร่โรคไปยังต้นไม้ต้นอื่นที่คุณเอาไว้ในบ้าน
ที่มาของภาพ : http://pad2.whstatic.com/images/thumb/a/a8/Care-for-Ferns-Step-12.jpg/67...
7)ย้ายต้นเฟิร์นไปลงในกระถางใหม่เมื่อผ่านไปมากกว่าหนึ่งปี เพราะต้นเฟิร์นมักจะโตจนใหญ่เกินกระถางใบเดิม การย้ายต้นเฟิร์นนี้ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของเฟิร์น คุณอาจจะต้องเปลี่ยนกระถางตั้งแต่ 6 เดือนหลังจากเริ่มปลูกต้นเฟิร์น
วิธีการ 2 : การดูแลเฟิร์นในสวน
ที่มาของภาพ : http://pad1.whstatic.com/images/thumb/f/f2/Care-for-Ferns-Step-8-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-8-Version-2.jpg
1)ปลูกเฟิร์นในที่ที่เหมาะสม ถ้าคุณมีต้นเฟิร์นในสวนของคุณอยู่แล้ว คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องย้ายต้นเฟิร์น นอกจากว่าต้นเฟิร์นเริ่มตาย เฟิร์นต้องการร่มเงาและความชื้นมากและจะเจริญเติบโตได้ดีใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ๆ ปลูกหรือย้ายต้นเฟิร์นไปลงในบริเวณทิศเหนือที่ไม่โดนแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ใบของต้นเฟิร์นไหม้
ที่มาของภาพ : http://pad3.whstatic.com/images/thumb/0/0b/Care-for-Ferns-Step-9-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-9-Version-2.jpg
2)รักษาความชื้นให้กับดินอยู่ตลอด ถ้าบริเวณที่คุณอยู่ไม่ใช่ที่ที่ฝนตกอยู่บ่อย ๆ คุณอาจจะต้องรดน้ำต้นเฟิร์นเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ดิน ใส่ปุ๋ยจากซากใบไม้ต่าง ๆ หนาสัก 2-3 นิ้ว ซึ่งจะช่วยเก็บรักษาความชื้นและทำให้มีน้ำระเหยออกมาในบริเวณใกล้เคียง เพิ่มความชื้นในอากาศอีกด้วย
ที่มาของภาพ : http://pad2.whstatic.com/images/thumb/6/64/Care-for-Ferns-Step-10-Version-2.jpg/728px-Care-for-Ferns-Step-10-Version-2.jpg
3)ใส่ปุ๋ยให้ต้นเฟิร์นเดือนละครั้ง โดยใส่ครั้งแรกหลังจากปลูกไปแล้วหกเดือนเพื่อทำให้เฟิร์นโตได้ดีขึ้น ให้เลือกปุ๋ยที่เป็นแบบพ่น (ให้ทำตามแนะนำข้างถุง) นอกจากนี้เรายังสามารถเติมเศษใบไม้หรือกากมะพร้าวเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้ต้นเฟิร์นโตได้ดีขึ้น
ที่มาของภาพ : http://pad3.whstatic.com/images/thumb/5/50/Prune-Orchids-Step-14.jpg/728px-Prune-Orchids-Step-14.jpg
4)ตัดส่วนที่ตายออก ต้นเฟิร์นไม่ค่อยมีศัตรูพืชมากนักนอกจากทากและโรคหายากหนึ่งถึงสองโรคเท่านั้น แต่ถ้าคุณเห็นว่าเฟิร์นมีส่วนที่เป็นโรคหรือตาย ให้ตัดส่วนนั้นออกเพื่อรักษาต้นเฟิร์นเอาไว้ และป้องกันไม่ให้กระจายไปยังต้นอื่นๆฃ
ที่มาของภาพ : http://www.wikihow.com/images/3/34/Care-for-Ferns-Step-12-Version-2.jpg
5)ย้ายต้นเฟิร์นหากจำเป็น ต้นเฟิร์นสามารถโตจนมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ได้และอาจจะต้องย้ายหรือแบ่งเฟิร์นออกเป็นหลาย ๆ ต้น การแบ่งต้นเฟิร์นทำได้โดยค่อย ๆ ขุดรากออกมา จากนั้นค่อย ๆ แยกต้นเฟิร์นออกเป็นส่วน ๆ ต้นเฟิร์นที่โตเป็นกลุ่ม ๆ จะง่ายต่อการแยก จากนั้นนำต้นเล็ก ๆ ที่แยกออกมาไปปลูกต่อแล้วหมั่นรดน้ำ
ที่มาของข้อมูล
http://th.wikihow.com/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99
ที่มาของภาพที่จัดทำแบนเนอร์ http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/168238.jpg
จัดทำโดย นางสาวกนกกร คุณบำรุง โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร