![]() |
|
การใช้ว่านหางจระเข้ในระยะหลัง ในซีกโลกตะวันตกซึ่งเป็นเขตอบอุ่นนั้น ไม่มีการใช้ว่านหางจระเข้สดๆ เป็นยา เพราะว่าว่านหางจระเข้เป็นไม้เมืองร้อนไม่สามารถทนต่อความหนาวได้ การใช้ว่านหางจระเข้เป็นยา จึงใช้วิธีเอายางจากใบมาทำให้แห้งเป็นก้อนที่เรารู้จักกันว่า ยาดำ และใช้เป็นเพียงยาระบายเท่านั้น ส่วนสรรพคุณอื่นๆนั้นใช้ยาอื่นแทนหมด และเนื่องจากยาสมัยใหม่ส่วนมากมาจากวัฒนธรรมของเขตอบอุ่น ดังนั้น ว่านหางจระเข้ซึ่งเป็นพืชในเขตร้อน จึงเพิ่งถูกค้นพบใหม่และกลับมาเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป การผลิตเครื่องฉายเอกซเรย์และระเบิดปรมาณูทำให้นักวิทยาศาสตร์มุ่งความสนใจมาที่ว่านหางจระเข้อีกครั้งหนึ่ง แผลไหม้จากรังสีทำให้ผิวหนังเกิดเป็นแผลเรื้อรังซึ่งเกือบจะรักษาไม่ได้ จนกระทั่งมาทดลองใช้ในว่านหางจระเข้ตามเก่าแก่ มันใช้ได้ผลดีกว่ายาอื่นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีใครรู้วิธีรักษาน้ำจากใบว่านหางจระเข้ให้อยู่ได้นาน จึงต้องใช้วิธีส่งใบสดมาจากประเทศในเขตร้อน ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมามีโครงการวิจัยสรรพคุณของว่านหางจระเข้เกิดขึ้นในหลายๆส่วนของโลก เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ประเทศรัสเซียไปไกลกว่าเพื่อนในซีกโลกตะวันตกเองมีการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อหาว่าอะไรทำให้ว่านหางจระเข้ใช้ได้ผลดีนัก มีการคาดหวังไปไกลถึงขนาดที่ว่าอีก 50 หรือ 60 ปีข้างหน้าทุกๆคนในประเทศจะได้รับประโยชน์จากต้นไม้นี้ ต้นไม้ที่สวรรค์ประทานให้ ในแต่ละปี มีชาวอเมริกันที่นิยมชมชอบสรรพคุณของว่านหางจระเข้เพิ่มขึ้นเป็นล้านๆคน คนที่รู้สรรพคุณหรือมีประสบการณ์มักจะบอกเล่าให้คนอื่นฟังต่ออย่างชื่นชมยินดี เกี่ยวกับว่านหางจระเข้ |
คุณเข้ามาเยี่ยมชมลำดับที่ ตั้งแต่วันพุธที่
11 กันยายน พ.ศ. 2545 Copyright(c) 2002.Sutida Thunkparsertsuk All rights reserved. |