สร้างโดย : นางสาวศรีสวาสดิ์ บุนนาคและนางสาววิมลลักษณ์ ทองพยงค์
สร้างเมื่อ อังคาร, 14/12/2553 – 13:49

อิเหนา

อิเหนา

อิเหนาหรือระเด่นมนตรี เป็นโอรสของท้าวกุเรปันและประไหมสุหรีนิหลาอระตา แห่งกรุงกุเรปัน อิเหนาเป็นชายรูปงามมีเสน่ห์ เจรจาอ่อนหวาน นิสัยเจ้าชู้ มีความเชี่ยวชาญในการใช้กริชและกระบี่เป็นอาวุธ ท้าวกุเรปันได้สู่ขอบุษบาหนึ่งหรัดธิดาของท้าวดาหาเป็นคู่ตุนาหงันของอิเหนาตั้งแต่เด็ก ครั้นอิเหนาโตเป็นหนุ่มได้พบ จินตะหราวาตีและหลงใหลนางมาก จึงปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานกับบุษบา แต่พอได้พบกับบุษบาก็หลงรักนาง จนกระทั่งลักพาตัวนางไปขณะที่นางกำลังจะเข้าพิธวิวาห์กับระตูจรกา ทำให้องค์ปะตาระกาหลาโกรธอิเหนาจึงบันดาลให้ลมหอบนางไปเสีย อิเหนาก็ปลอมตัวเป็นโจรป่าชื่อ มิสารปันหยี ออกติดตามหานางจนทั่วแผ่นดินชวาก็ไม่พบ จึงตัดสินใจบวชเป็นฤาษี ใช้ชื่อว่า กัศมาหรา ได้รับความทุกข์ทรมานใจแสนสาหัสกว่าจะไดเพบนางบุษบาอีกครั้ง ภายหลังอิเหนาได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองกุเรปันมีมเหสีถึง 10 องค์

บุษบา

บุษบา เป็นธิดาของท้าวดาหาและประไหมสุหรีดาหราวาตี แห่งกรุงดาหาเมื่อตอนประสูติมีเหตุอัศจรรย์คือ มีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งวัง ดนตรี แตรสังข์ก็ดังขึ้นเองโดยไม่มีผู้บรรเลง ประสูติได้ไม่นาน ท้าวกุเรปันก็ขอตุนาหงันให้กับอิเหนา บุษบาเป็นหญิงที่งามล้ำเลิศกว่านางใด ในแผ่นดินชวากิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคนใจกว้างและมีเหตุผล จึงผูกใจให้อิเหนารักใคร่ใหลหลงนางยิ่งกว่าหญิงอื่น นอกจากนั้นบุษบายังเป็นลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพระบิดา พระมารดา ยอมแต่งงานกับระตูจรกา แม้ว่าจะไม่พอใจในความขี้ริ้วขี้เหร่ของระตูจรกาก็ตาม นางถูกเทวดาบรรพบุรุษ ของวงศ์อสัญแดหวาคือ องค์ปะตาระกาหลาบันดาลให้ลมพายุหอบไป ทำให้นางต้องพลัดพรากจากอิเหนา และพระบิดาพระมารดาเป็นเวลาหลายปี กว่าจะได้พบอิเหนาและวิวาห์กัน โดยนางได้ตำแหน่งเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้าย

บุษบา
ท้าวดาหา

ท้าวดาหา

ท้าวดาหา เป็นกษัตริย์ผู้ครองกรุงดาหา  มีมเหสีครบตามตำแหน่ง  5  องค์  ตำแหน่งประไหมสุหรีซึ่งเป็นมเหสีเอกชื่อดาหราวาตี  เป็นน้องสาวของ ประไหมสุหรีแห่งกรุงกุเรปัน ท้าวดาหามีโอรสและธิดากับประไหมสุหรี  2  องค์คือ  บุษบาหนึ่งหรัดกับสียะตรา  ทรงยินยอมยกบุษบาให้เป็นคู่ตุนาหงันของอิเหนา  เมื่อท้าวกุเรปันพี่ชายของพระองค์มาสู่ขอ  ท้าวดาหาเป็นผู้มีใจยุติธรรม  โดยทรงยินยอมให้จินตราดำรงตำแหน่งประไหมสุหรีฝ่ายขวาของอิเหนา  ซึ่งเป็นใหญ่กว่าบุษบาที่เป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้าย

ระตูปาหยัง

ระตูปาหยัง เป็นอนุชาของท้าวกะหมังกุหนิง ครองนครปาหยัง มีราชบุตรีสององค์ คือ ระเด่นรัตนาระติกาและรัตนาวาตี ระตูปาหยังได้ช่วยพระเชรษฐาในศึกกะหมังกุหนิง

ระตูปาหยัง
ท้าวกุเรปัน

ท้าวกุเรปัน

ท้าวกุเรปัน กษัตริย์ผู้ครองกรุงกุเรปัน มีมเหสี 5 องค์ตามประเพณีของงกษัตริย์วงศ์อสัญแดหวา ประไหมสุหรีซึ่งเป็นตำแหน่งมเหสีเอกชื่อนิหลาอะระตา คือธิดาของระตูหมันหยาองค์เก่า ท้าวกุเรปันมีโอรสองค์แรกกับลิกู มเหสีองค์ที่ 4 คือ กะหรัดตะปาตี และมีโอรสธิดากับประไหมสุหรีในเวลาต่อมาคือ อิเหนากับวิยะดา ท้าวกุเรปันมีน้องชายร่วมพระบิดามารดาเดียวกันอีก 3 องค์ ซึ่งได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองต่างๆ คือ ท้าวดาหา , ท้าวกาหลัง และท้าวสิงหัดส่าหรี สำหรับท้าวกุเรปันนั้นทรงหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีของวงศ์อสัญแดหวาจึงจัดการหาคู่ตุนาหงัน (คู่หมั้น) ที่เป็นเชื้อสายของวงศ์อสัญแดหวาด้วยกัน ให้โอรสและธิดาของพระองค์ตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นจึงไม่พอพระทัยเมื่ออิเหนาไปมีสัมพันธ์รักกับจินตะหราธิดาของระตูหมันหยาองค์ใหม่

ท้าวกะหมังกุหนิง

ท้าวกะหมังกุหนิง ผู้ครองเมืองกะหมังกุหนิง  มีน้องชาย 2 คนคือ ระตูปาหยังกับระตูประหมัน  และมีโอรสชื่อวิหยาสะกำ ซึ่งพระองค์และมเหสีรักราวกับแก้วตา เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงทราบว่าวิหยาสะกำคลั่งไคล้ใหลหลงบุษบา  ธิดาของท้าวดาหา ซึ่งเพียงแต่เห็นรูปวาดเท่านั้น  พระองค์ก็แต่งทูตไปสู่ขอนางทันที  ครั้นถูกปฏิเสธเพราะท้าวดาหายกบุษบาให้เป็นคู่หมั้นของระตูจรกาไปแล้ว  ท้าวกะหมังกุหนิงก็โกรธมาก  ยกทัพไปตีกรุงดาหาเพื่อแย่งบุษบามาให้วิหยาสะกำ  แม้ว่าน้องทั้งสองจะพยายามพูดทัดทานไว้  ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด  โดยประกาศว่าจะยอมตายเพื่อลูกและเมื่อยกทัพไปถึงกรุงดาหา  วิหยาสะกำถูกสังคามาระตาฆ่าตาย  ทำให้ท้าวกะหมังกุหนิงแค้นมาก  ขับม้าแกว่งหอกเข้ารุกไล่สังคามาระตาทันที  แต่อิเหนาเข้าขวางไว้และต่อสู้กันเป็นเวลานาน  ในที่สุดท้าวกะหมังกุหนิงก็ถูกอิเหนาแทงด้วยกริช ถึงแก่ความตาย

ท้าวกะหมังกุหนิง
สังคามาระตา

สังคามาระตา

สังคามาระตา โอรสของระตูปรักมาหงัน  และเป็นน้องของมาหยารัศมี สังคามาระตาเป็นหนุ่มรูปงาม มีความเฉลียวฉลาด รอบคอบ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ เก่ง และกล้าหาญ ทั้งยังมีความซื่อสัตย์ และชำนาญในการใช้ทวนเป็นอาวุธ เป็นคู่คิดคู่ปรึกษาและช่วยเตือนสติอิเหนาได้หลายครั้งใหม่

มาหยารัศมี

มาหยารัศมี เป็นธิดาของระตูปักมาหงันนางมีน้องชายคือสังคามาระตา รูปโฉมของมาหยารัศมีงดงามมากเป็นกุลสตรีที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยไม่เห่อเหิมทะเยอทะยาน  เชื่อฟังและยอมปฏิบัติตามคำสั่งฃองบิดามารดาและสามีแต่โดยดี เมื่อยอมสวามิภักดิ์ต่ออิเหนาและนำตัวนางกับสังคามาระตาไปถวาย นางนึกกลัวเพราะไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แต่ก็ไม่ขัดขืน ครั้นเมื่อเป็นภรรยาของอิเหนาแล้วนางก็จงรักภักดี เมื่ออิเหนาเข้าพิธีวิวาห์พร้อมมเหสี 10 องค์นั้น  มาหยารัศมีก็เข้าร่วมพิธีด้วยในตำแหน่งมะเดหวีฝ่ายซ้าย และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา

มาหยารัศมี
สุหรานากง

สุหรานากง

สุหรานากง โอรสของท้าวสิงหัดส่าหรีที่เกิดจากประไหมสุหรี พระบิดาได้สู่ขอสะการะหนึ่งหรัด ธิดาท้าวกาหลังให้เป็นคู่ตุหนาหงันตั้งแต่เด็ก สุหรานากงปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพระบิดาและพระมารดาอยู่เสมอ มีความกล้าหาญ และวางตนได้ย่างเหมาะสม

ระตูหมันหยา

ระตูหมันหยา  เป็นโอรสของท้าวมังกันแห่งเมืองมังกัน  พระบิดาได้ขอตุนาหงัน  ระเด่นจินดาส่าหรี  ธิดาองค์สุดท้องของระตูหมันหยาซึ่งสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เมื่อแต่งงานกับประไหมสุหรีผู้มารดาของระเด่นจินดาส่าหรีก็อภิเษกให้ครองเมืองหมันหยา  เป็นระตูหมันหยาองค์ต่อมา  โดยให้ระเด่นจินดาส่าหรีเป็นประไหมสุหรี ระตูหมันหยาและประไหมสุหรีจินดาส่าหรีมีธิดาด้วยกันเพียงองค์เดียวคือ จินตะหราวาตี พระองค์มีจิตใจอ่อนแอ  ไม่มีความเป็นนักสู้  เมื่อทราบข่าวว่าโจรป่ามีสารปันหยียกทัพเข้าเขตเมืองหมันหยา  ก็นึกหวาดกลัวถึงกับยอมแพ้ยกเมือง และธิดาให้โดยไม่คิดจะต่อสู้  จนอิเหนานึกดูหมิ่นว่าระตูหมันยาไม่รักศักดิ์ศรีของตนเอง  และเมื่อท้าวกุเรปันส่งสาสน์ไปบอกให้พาจินตะหราวาตีไปเข้าพิธีวิวาห์กับอิเหนา  พระองค์ก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะเกรงว่าท้าวกุเรปันจะโกรธแล้วได้รับความเดือดร้อน

ระตูหมันหยา
องค์ปะตาระกาหลา

องค์ปะตาระกาหลา

องค์ปะตาระกาหลา หรือบางทีเรียกว่า องค์อสัญแดหวา เป็นเทวดาบรรพบุรุษของ ราชวงศ์อสัญแดหวา ซึ่งมีอยุ่ด้วยกัน 4 เมือง คือ กรุงกุเรปัน กรุงดาหา กรุงกาหลังและกรุงสิงหัดส่าหรี องค์ปะตาระกาหลาจะคอยดูแลทุกข์สุขของบุคคลในราชวงศ์อสัญแดหวาอยู่เสมอ เมื่ออิเหนากับสียะตรา ประสูติใหม่ๆพระองค์ก็เนรมิตกริชจารึกชื่อนำมามอบให้เป็นอาวุธประจำตัวคนละเล่ม ครั้นต่อมาอิเหนาวางแผนเผากรุงดาหาแล้วลักพาตัวบุษบาหนึ่งหรัด ไปอยู่ด้วยกันในถ้ำ พระองค์โกรธมาก ทรงคิดจะทรมานให้อิเหนาได้รับความทุกข์ร้อนอย่างแสนสาหัส จึงบันดาลให้ลมหอบบุษบาไป แล้วให้ปลอมตัวเป็นชายอีกด้วย ทำให้อิเหนาต้องออกติดตามหาบุษบา และแม้ว่าจะได้พบกันก็ไม่อาจจำกันได้ เพราะคำสาปขององค์ปะตาระกาหลานั่นเอง จนภายหลังเมื่อเห็นว่าอิเหนาได้รับบทลงโทษที่สาสมแล้ว จึงดลบันดาลให้ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง

ระตูประหมัน

ระตูประหมันเป็นอนุชาของท้าวกะหมังกุหนิง ครองเมืองประหมัน มีโอรสชื่อวิหรากะระดาและราชบุตรีชื่อบุษบาวิลิศ ระตูประหมันได้ช่วยพระเชรษฐาในศึกกะหมังกุหนิง

ระตูประหมัน
ท้าวกาหลัง

ท้าวกาหลัง

ท้าวกาหลัง เป็นกษัตริย์ผู้ครองกรุงกาหลัง เป็นน้องของท้าวกุเรปันและท้าวดาหามีมเหสี 5 องค์ ครบตำแหน่งตามประเพณีของวงศ์อสัญแดหวา พระองค์มีธิดาที่เกิดจากประไหมสุหรีหนึ่งองค์ คือระเด่นสะการะหนึ่งหรัดและมีธิดากับลิกูหนึ่งองค์ คือบุษบารากา ท้าวกาหลังทรงมีจิตใจเมตตากรุณากับทุกคน เช่น ทรงยอมรับคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะพบกันครั้งแรก คือ ปันหยี อุณากรรณและย่าหรัน ไว้เป็นโอรสบุญธรรมให้การเลี้ยงดูอย่างดี ทั้งๆที่ไม่ทรงทราบว่าเป็นหลานแท้ๆของพระองค์เอง

ประสันตา

ประสันตา เป็นพี่เลี้ยงหนึ่งในสี่ของอิเหนา ซึ่งท้าวกุเรปันเลือกแต่ครั้งอิเหนาประสูติใหม่ๆ บิดาของประสันตาเป็นเสนาบดีตำแหน่งยาสา(ฝ่ายตุลาการ) ของกุเรปัน ประสันตามีนิสัยตลก คะนอง ปากกล้า เจ้าอารมณ์ ชอบพูดเย้าแย่เสียดสีผู้อื่นอยู่เสมอ และยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย

ประสันตา
สะการะวาตี

สะการะวาตี

สะการะวาตีเป็นธิดาของท้าวปันจะรากันผู้เป็นพระเชษฐาของท้าวปักมาหงัน นางถูกพระชนกถวายให้อิเหนาโดยการยินยอมของ จินตะหราวาตี ตอนที่อิเหนาจะยกทัพไปช่วยรบป้องกันเมืองดาหานั้นได้ฝากนางและมาหยารัศมีไว้กับจินตะหราวาตีง

ระเด่นวิหยาสะกำ

ระเด่นวิหยาสะกำ เป็นโอรสของท้าวกะหมังกุหนิง ซึ่งเกิดจากประไหมสุหรี เป็นหนุ่มรูปงาม ผิวพรรณผุดผ่อง มีฝีมือในการใช้ทวนเป็นอาวุธ จึงเป็นที่สุดสวาทของพระบิดา พระมารดายิ่งนัก แต่วิหยาสะกำมีจิตใจอ่อนไหวมาก วันหนึ่งได้ออกไปเที่ยวป่า องค์ปะตาระกาหลาก็แปลงเป็นกวางทองมาล่อไปจนพบรูปวาดของบุษบา ทำให้วิหยาสะกำคลั่งไคล้ใหลหลงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญถึงนางในรูปราวกับคนเสียสติ ท้าวกะหมังกุหนิงสงสารพระโอรส จึงแต่งทูตไปสู่ขอจากท้าวดาหา ครั้นถูกปฏิเสธ ท้าวกะหมังกุหนิงจึงยกทัพไปประชิดกรุงดาหา วิหยาสะกำได้ต่อสู้กับสังคามาระตาน้องบุญธรรมของอิเหนา ซึ่งยกทัพมาช่วยท้าวดาหาทำศึก วิหยาสะกำเพลี่ยงพล้ำเสียทีถูกทวนของสังคามาระตาถึงแก่ความตาย

ระเด่นวิหยาสะกำ
จินตะหราวาตี

จินตะหราวาตี

จินตะหราวาตีเป็นธิดาของระตูหมันหยากับประไหมสุหรีจินดาส่าหรีแห่งเมืองหมันหยา มีรูปโฉมงดงาม มีผิวสองสี นิสัยเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตนเอง แสนงอน ช่างพูด ประชดประชัน บางครั้งก็ก้าวร้าวหยาบคาย จนแม้แต่อิเหนายังนึกเบื่อและรำคาญใจ ทั้งๆที่เมื่อได้พบนางครั้งแรกก็หลงรักจนไม่ยอมกลับกรุงกุเรปันและปฏิเสธการแต่งงานกับบุษบาอย่างสิ้นเชิง ครั้นอิเหนาได้รับคำสั่งจากท้าวกุเรปันให้ไปช่วยทำศึกที่กรุงดาหาทำให้นางไม่ได้พบกับอิเหนาอีกเลย จวบจนเวลาผ่านไปนานหลายปี ท้าวกุเรปันจะจัดพิธีวิวาห์ให้อิเหนา จึงทรงมีสาส์นมาถึงระตูหมันหยาให้พาจินตะหราไปเข้าพิธีด้วย ในตำแหน่งประไหมสุหรีฝ่ายขวา