วันดื่มนมโลก (World Milk Day)
สร้างโดย : นางสาวเบญจมาศ ภัคโชค
สร้างเมื่อ พุธ, 15/10/2008 – 10:30
มีผู้อ่าน 31,813 ครั้ง (06/11/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/17010
วันดื่มนมโลก (World Milk Day)
วันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี
วันดื่มนมโลกคืออะไร?
นับตั้งแต่ วันดื่มนมโลก ครั้งแรกที่จัดขึ้นในปี 2544 หลายประเทศทั่วโลกได้เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองและมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี
ทำไมต้องจัดงานวันดื่มนมโลก? The Day เปิดโอกาสให้ให้ความสำคัญกับนมและประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนมและอุตสาหกรรมนม ความจริงที่ว่าหลายประเทศเลือกที่จะทำเช่นนี้ในวันเดียวกันนั้นให้ความสำคัญกับการเฉลิมฉลองระดับชาติของแต่ละคนและแสดงให้เห็นว่านมเป็นอาหารระดับโลก
มันเริ่มต้นที่ไหน? FAO (องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ) ถูกขอให้เสนอวันที่เฉพาะสำหรับการเฉลิมฉลองนมทุกด้าน
ทำไมต้อง 1 มิถุนายน? วันที่นี้ได้รับเลือกเนื่องจากหลายประเทศได้ฉลองวันดื่มนมแห่งชาติแล้วในหรือในช่วงเวลาประมาณนี้ เดิมมีการเสนอช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แต่บางประเทศ เช่น จีน รู้สึกว่าพวกเขามีงานเฉลิมฉลองมากเกินไปในเดือนนั้น ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่จัดงานเฉลิมฉลองในวันที่ 1 มิถุนายน แต่บางประเทศก็เลือกที่จะจัดงานดังกล่าวประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนหรือหลังวันที่นี้
“นม” เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแท้จริง มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ (International Osteoporosis Foundation หรือ IOF) ระบุว่านมและผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ เป็นอาหารพร้อมบริโภคที่หาได้ง่าย จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีแร่ธาตุแคลเซียมสูงที่สุด ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยเป็นแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุดและยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะให้ทั้งโปรตีนและเกลือแร่ที่สำคัญ เช่น ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน นมช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง การสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกตั้งแต่อายุยังน้อยๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกแตกหักได้ง่ายเมื่ออายุมากขึ้น
ธาตุอาหารใน “นม” ทั้งโปรแตสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม ล้วนมีส่วนช่วยไม่ให้ความดันโลหิตสูงเกินกว่าปกติ เพื่อสุขภาพฟันที่ดี โดยปกติเนื้อฟันมีสารเคลือบที่ถือเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียม ฟันจึงต้องการแคลเซียมเพื่อช่วยเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรงมีสุขภาพดี นมอุดมด้วยแคลเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อฟัน มีโปรตีนที่ช่วยให้ฟันเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยเคลือบผิวฟันอีกด้วย ช่วยคุมน้ำหนัก หลายๆ คนหลีกเลี่ยงไม่ดื่มนมเพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วน แต่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องไขมัน หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันแค่เพียง 3.9%, 1.7%, และ 0.3% เท่านั้น
นอกจากนี้ “นม” ยังเป็นเครื่องดื่มที่มอบความสดชื่นไม่แตกต่างจากน้ำดื่ม การดื่มนมเพียงหนึ่งหรือสองแก้วจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นและยังทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกด้วย นม 1 กล่อง เท่ากับทุกคุณค่าของสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แคลเซียม สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานกับร่างกายแมกนีเซียม สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อฟอสฟอรัส สร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย และทำให้กระดูกแข็งแรงโปรแตสเซียม ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ โปรตีนสร้างเสริมการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามินบี 2 ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ช่วยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
🔸นมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับทุกวัย เพราะในนมมีโปรตีนคุณภาพดีและมีปริมาณแคลเซียมสำหรับการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไขมันต่ำ รสจืดมีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งด้วยน้ำตาลและกลิ่น เนื่องจากมีแคลเซียมในปริมาณมาก ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อพัฒนาการด้านความสูง
🔹จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยดื่มนมน้อยมาก เฉลี่ยคนละประมาณ 14 ลิตรต่อปี ในขณะที่อัตราการดื่มนมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉลี่ยคนละ 60 ลิตรต่อปี และทั่วโลกเฉลี่ยคนละ 103.9 ลิตรต่อปี หรือกล่าวได้ว่าอัตราดื่มนมในคนไทยยังต่ำกว่าประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลก 4-7 เท่า (อ้างอิงข้อมูลโดยกรมอนามัย)
🔹นมเป็นแหล่งอาหารประเภทโปรตีนที่มีคุณภาพดี ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็วจะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาก ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายในผู้ใหญ่
🔹นอกจากนี้นมยังมีวิตามินต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามิน บี 1 ,บี 2 ,บี 6, บี 12, วิตามินดี แคลเซียม และฟอสฟอรัสบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
😊ทั้งนี้ในมุมมองของนักโภชนาการ (นักกำหนดอาหารวิชาชีพ) ตามหลักการบริโภคอาหารของธงโภชนาการ แนะนำว่า
👧🏻ในกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน 1 ขวบปีขึ้นไปและเด็กวัยเรียน ควรเลือกดื่มนมรสจืด 2 แก้วต่อวัน (โดยปริมาตรนม 1 แก้ว เท่ากับ 240 มล.) ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง สำหรับเด็กที่มีสุขภาพดีปกติ ควรดื่มนมครบส่วน ไม่ควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนยหรือไร้ไขมัน เพราะมีแหล่งพลังงาน คือ ไขมันและวิตามินเอ,ดี, อี, เค ซึ่งละลายในไขมัน และในเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินเกณฑ์ (เด็กอ้วนหรือเด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์) สามารถเลือกดื่มนมพร่องมันเนยได้ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำหนักตัว
🤰🏻ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรเลือกดื่มนมรสจืด วันละ 2 แก้วและบริโภคปลาเล็กปลาน้อย 2 ช้อน กินข้าวหรือผักใบเขียวเข้ม 4 ทัพพี หรือเต้าหู้แข็ง 1 แผ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกของทั้งมารดาและทารกในครรภ์
👩🏻💼ในกลุ่มวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ แนะนำให้ดื่มนมรสจืดพร่องมันเนยหรือไร้ไขมันวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ได้รับแร่ธาตุแคลเซียมเพียงพอ ป้องกันภาวะกระดูกพรุน
🔹ผู้ที่ปัญหาภาวะไขมันในเลือดสูง ควรเลือกดื่มนมรสจืดพร่องมันเนย หรือนมไร้ไขมัน ดีกว่านมปรุงแต่งรส
🔸การเลือกดื่มนมและผลิตภัณฑ์นม ควรสังเกตที่มีเครื่องหมาย อย. รับรองอย่างถูกต้อง และอ่านฉลากข้อมูลโภชนาการข้างผลิตภัณฑ์ว่ามีน้ำนมโคสดแท้กี่เปอร์เซ็นต์ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำนมโคสดแท้ที่เปอร์เซ็นต์สูงกว่า จะได้รับสารอาหารจากนมมากกว่า
😊นอกจากนี้ “นม” ยังเป็นเครื่องดื่มที่มอบความสดชื่นไม่แตกต่างจากน้ำดื่ม การดื่มนมเพียงหนึ่งหรือสองแก้วจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น และยังทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกด้วย
🥛ส่วนใครที่เลี่ยงการดื่มนม เพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วนนั้น ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องไขมัน หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันแค่เพียง 3.9% , 1.7% และ 0.3% เท่านั้น
📍รู้อย่างนี้แล้ว มาเริ่มต้นดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย และปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันดีกว่า
แหล่งข้อมูล : https://www.med.cmu.ac.th/web/news-event/news/pr-news/9601/