วันแม่แห่งชาติ
สร้างเมื่อ จันทร์, 28/07/2008 – 12:47
มีผู้อ่าน 357.058 ครั้ง (07/11/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/6662
วันแม่แห่งชาติ
วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี
ความเป็นมาของวันแม่
ชาวอเมริกันเป็นผู้กำหนดให้มีวันแม่อย่างเป็นทางการขึ้น และผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา คือ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย แต่กว่าเธอจะประสบความสำเร็จก็ครบ 2 ปีพอดีในปี ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว
ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย
งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน
ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่คือ ดอกมะลิ เป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ
- ดอกมะลิ ดอกไม้สัญลักษณ์วันเเม่ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
- การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ และประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน
- จัดกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การประกวดต่างๆ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่
- การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล
- นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่
อ่านเพิ่มเติม...
วันแม่ในประเทศต่าง ๆ
ประเทศอื่น ๆ ก็มีการกำหนดวันแม่ไว้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ใช้วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ประเทศรัสเซียใช้วันที่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้น
อาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ | นอร์เวย์ |
8 มีนาคม | บัลแกเรีย, แอลเบเนีย |
อาทิตย์ที่สี่ใน ฤดูถือบวชเล็นท์ (มาเทอริง ซันเดย์) | สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์ |
21 มีนาคม วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ | จอร์แดน, ซีเรีย, เลบานอน, อียิปต์ |
อาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม | โปรตุเกส, ลิทัวเนีย, สเปน, แอฟริกาใต้, ฮังการี |
8 พฤษภาคม | เกาหลีใต้ (วันผู้ปกครอง) |
10 พฤษภาคม | กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้, บาห์เรน, ปากีสถาน, มาเลเซีย, เม็กซิโก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อินเดีย, โอมาน |
อาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม | แคนาดา, สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน), สาธารณรัฐประชาชนจีน, ญี่ปุ่น, เดนมาร์ก, ตุรกี, นิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์, บราซิล, เบลเยียม, เปรู, ฟินแลนด์, มอลตา, เยอรมนี, ลัตเวีย, สโลวาเกีย, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, อิตาลี, เอสโตเนีย, ฮ่องกง |
26 พฤษภาคม | โปแลนด์ |
27 พฤษภาคม | โบลิเวีย |
อาทิตย์ที่สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม | สาธารณรัฐโดมินิกัน, สวีเดน |
อาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายน หรืออาทิตย์ที่สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม | ฝรั่งเศส |
12 สิงหาคม | ไทย |
15 สิงหาคม (วันอัสสัมชัญ) | คอสตาริกา, แอนท์เวิร์ป (เบลเยียม) |
อาทิตย์ที่สองหรือสามของเดือนตุลาคม | อาร์เจนตินา (Día de la Madre) |
28 พฤศจิกายน | รัสเซีย |
8 ธันวาคม | ปานามา |
22 ธันวาคม | อินโดนีเซีย |
คำว่า แม่
นักภาษาศาสตร์ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า คำว่า “แม่” ของทุก ๆ ภาษา มาจากการออกเสียงของเด็ก โดยคำขึ้นต้นด้วยพยัญชนะริมฝีปากคู่ (Bilabial) ได้แก่ ม , พ , ป ,บ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นพยัญชนะชุดแรกที่เด็กสามารถทำเสียงได้ โดยการใช้ริมฝีปากบนและล่าง ดังเช่น
- ภาษาไทย แม่
- ภาษาจีน ม๊ะ หรือ ม่า
- ภาษาฝรั่งเศส la mere (ลา แมร์)
- ภาษาอังกฤษ mom , mam
- ภาษาโซ่ ม๋เปะ
- ภาษามุสลิม มะ
- ภาษาไทใต้คง เม เป็นต้น
เพลงวันแม่
เพลง ค่าน้ำนม (2492)
เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงที่แต่งโดย ไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรกโดย ชาญ เย็นแข เมื่อ พ.ศ. 2492 ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับไพบูลย์ บุตรขัน และชาญ เย็นแข มากที่สุด ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่ง ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2532
เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงหนึ่งในจำนวน 5-6 เพลง ที่ไพบูลย์ บุตรขัน แต่งให้กับมารดา คือนางพร้อม ประณีต (ครูไพบูลย์ มีนามสกุลเดิมว่า ประณีต) ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลครูไพบูลย์อย่างใกล้ชิดมาตลอด ตั้งแต่วัยหนุ่มจนท่านเสียชีวิตในวัย 70 กว่าปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2508 ถึงแม้ครูไพบูลย์จะป่วยเป็นโรคเรื้อนซึ่งได้รับความรังเกียจจากบุคคลทั่วไป
เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงแรกที่ชาญ เย็นแข ได้รับการบันทึกเสียง โดยในครั้งแรกครูไพบูลย์ตั้งใจจะให้บุญช่วย หิรัญสุนทรเป็นผู้ขับร้องบันทึกเสียงกับวงดนตรีศิวารมย์ของครูสง่า อารัมภีร แต่บุญช่วย หิรัญสุนทรเกิดป่วยไม่สามารถมาร้องได้ ครูสง่าจึงเสนอให้ชาญ เย็นแขซึ่งเป็นลูกศิษย์ มาขับร้องแทน
ในการขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรก ครูสง่า อารัมภีร เป็นผู้เล่นเปียโน บันทึกเสียงเพียงไม่กี่ครั้งก็ใช้งานได้ เรียบเรียงเสียงประสานโดย สง่า อารัมภีร และ ประกิจ วาทยกร (บุตรชายของพระเจนดุริยางค์) วางจำหน่ายเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2492 โดยบริษัทนำไทย จำกัด แผ่นเสียงตราสุนัขสลากเขียว แผ่นครั่งขนาด 10″ ความเร็ว 78 รอบต่อนาที ขายได้ 800 แผ่น
หลังจากแผ่นเสียงเพลงนี้ออกจำหน่าย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลาวัณย์ โชตามระ นักหนังสือพิมพ์บันทึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2508 ว่า เป็นประวัติการณ์ที่ว่า พอถึงวันแม่ซึ่งทางการยุคหนึ่งกำหนดให้ถือเอาวันที่ 15 เมษายน ตลอดวัน วิทยุก็จะกระจายเสียงแต่เพลงที่เขาแต่งขึ้น นั่นคือ เพลงค่าน้ำนม ที่มีเนื้อร้องขึ้นต้นว่า “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง…”
เนื้อเพลง ค่าน้ำนม
ชื่อเพลง / Title : ค่าน้ำนม
ศิลปิน / Artist : ชาญ เย็นแข
เนื้อเพลง / Lyrics : ค่าน้ำนม
แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล
เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
ควรคิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
ควรคิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
เพลงใครหนอ (2498)
เพลง”ใครหนอ” ก็เป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่ถูกใช้ในงานวันแม่อยู่บ่อย ๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่สองรองจากเพลงค่าน้ำนม โดยบทเพลงนี้ขับร้องโดยคุณสวลี ผกาพันธ์ุ ส่วนคำร้องและทำนองนั้นเขียนขึ้นโดยครูสุรพล โทณะวณิก บันทึกเสียงครั้งแรกในปี 2498 แต่รู้หรือไม่ว่าบทเพลงนี้มีที่มาที่น่าสนใจมาก ๆ เลย เชื่อว่าทุกคนจะต้องคิดว่าเพลงนี้คือเพลงที่พูดถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วเพลงนี้เป็นเพลงรักและเป็นความรักแบบชายหญิงด้วย!
ขับร้อง สวลี ผกาพันธุ์
คำร้องและทำนอง สุรพล โทณะวณิก
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวี
ใคร หนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใคร หนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย
รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใคร หนา
ใคร หนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน
ใคร หนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใคร หนอ รักเราดังดวงแก้วตา
รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ
จะเอาโลก มาทำปากกา
แล้วเอานภา มาแทน กระดาษ
เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด
ประกาศ พระคุณไม่พอ
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน)
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ (คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ
ดนตรี
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน)
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ(คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ
อิ่มอุ่น (2537)
ขับร้อง ศุ บุญเลี้ยง
อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป
ใช่เพียงอิ่มท้อง
ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน
เรียงความเรื่องแม่ (2548)
ขับร้อง
เด็กชายจากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆและ
เด็กหญิงจากสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี
คำร้อง สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา
ทำนอง วุฒิชัย สมบัติจินดา
เรียบเรียง อนุชา อรรจนาวัฒน์
คุณครูสั่งให้เขียน เรียงความเรื่องแม่ฉัน
บอกให้ส่งให้ทันวันพรุ่งนี้
มันยากจัง ทำไม่ใหว
หนูแม่ไม่มี แล้วจะเขียนให้ดียังไง
เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแล ก็ไม่คุ้น
กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม
พร้อมหน้ากัน ทานอาหาร
เคยมีแค่ฝันไป ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี
ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอน
ไม่เคยอุ่นใจ นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที
ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้
บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา
ถ้าแม่ฟังอยุ่ไม่ว่าแม่อยุ่ใหนไม่ว่าแม่เป็นใคร
ช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยุ่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี
เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแล ก็ไม่คุ้น
กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม
พร้อมหน้ากัน ทานอาหาร
เคยมีแค่ฝันไป ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี
ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอน
ไม่เคยอุ่นใจ นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที
ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้
บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา
ถ้าแม่ฟังอยุ่ไม่ว่าแม่อยุ่ใหนไม่ว่าแม่เป็นใคร
ช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยุ่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี
ของขวัญวันแม่ / แดน ดีทูบี
เพิ่งรู้ว่าแม่ก้อเหงา ตอนที่ขอให้เราโทรไป
เพิ่งรู้ว่าแม่น้อยใจ เมื่อเราอายไม่ยอมให้กอดเรา
เพิ่งรู้ว่าเก็บไปคิด ว่าลูกไม่รักเหมือนเก่า
เพิ่งรู้ว่าแม่ก็เศร้า เมื่อเราเถียงเมื่อเราขัดใจ
เพิ่งรู้ว่าแม่คิดถึง เด็กคนนึงที่เคยแต่งตัว
เพิ่งรู้ว่าแม่ก้อกลัว ว่าวันนึงเราต้องห่างไกล
เพิ่งรู้ว่าแต่ละวัน บ้านมันดูเงียบไป
ไม่เหลือเจ้าตัววุ่นวาย ก็ไม่เหลือหัวใจเหมือนกัน
แม่ชอบ บ่น ว่า ซักวัน เหอะ ซักวัน คงทนเราไม่ไหว
แต่เรารู้ดีกว่าใคร ว่าแม่เต็มใจจะรับมัน
ไม่มีมะลิซักกำ ไม่มีคำซึ้งๆใด
มีแต่ความรักล้นใจ ห่อมาให้แทนของขวัญ
อยากได้อ้อมแขน อุ่นๆ แน่นๆ อยู่นานๆ
ขอโทษที่เคยรำคาญ ที่ทำให้แม่เสียใจ
วันนี้ยังยินดีจะกอดลูกมั้ย ไม่อยากก็ไม่เป็นไร
ฮืม…..แต่ลูกอยากให้แม่กอด
เพิ่งรู้ว่าแม่ก็รู้ ว่าเราโตขึ้นมาแค่ไหน
เพิ่งรู้ว่าแม่ ปลื้มใจที่ได้ดูแลเราจนวันนี้
ที่พูดเวลาโมโห ว่าไม่โตซักที
แค่แม่ไม่อยากให้มี วันที่ลูกต้องไปไกลกัน
แม่ชอบ บ่น ว่า ซักวัน เหอะ ซักวัน คงทนเราไม่ไหว
แต่เรารู้ดีกว่าใคร ว่าแม่เต็มใจจะรับมัน
ไม่มีมะลิซักกำ ไม่มีคำซึ้งๆใด
มีแต่ความรักล้นใจ ห่อมาให้แทนของขวัญ
คือหัตถาครองพิภพ
สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สองมือที่ดังไม่มีความสําคัญ
คือสองมือที่ทำโลกหมุนไป
แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง
แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็นได้ดั่งที่ตั้งใจ
จะทุกข์ทนเดียวดายไม่มีความสําคัญ
บรรดาลโลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นําพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปรไปด้วยมือเธอสร้างสรรค์
ดังถ้อยคําประพันธ์เปรียบเปรยพรรณา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจักอาจ
ซึ่งอํานาจอันแข็งแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมาคือหัตถาครองพิภพจบสากล
รักแท้คือแม่เรา – ฝน ธนสุนทร
ย่อ