สารเสพติดและผลต่อร่างกาย

สร้างโดย : ไพรัตน์ คำปา
สร้างเมื่อ เสาร์, 18/07/2009 – 23:14
มีผู้อ่าน 212,869 ครั้ง (17/11/2022)
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/28771

สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
เวลา 2 ชั่วโมง ­

สาระสำคัญ 
          สารเสพติด หมายถึง สิ่งที่รับเข้าสู่ร่างกายแล้วมีผลต่อร่างกายและจิตใจของผู้เสพ คือ ทำให้มีความต้องการอยากเสพต่อไปเรื่อย ๆ และต้องการเสพเพิ่มขึ้น เมื่อไม่ได้เสพจะมีการแสดงออกในลักษณะต่างๆ เช่น หาว อาเจียน น้ำตาไหล ทุรนทุราย คลุ้มคลั่ง ขาดสติ เป็นต้น การเสพสารเสพติดมีสาเหตุมาจากตัวผู้เสพเองและจากสิ่งแวดล้อม สำหรับบุหรี่และแอลกอฮอล์หากสูบและดื่มทุกวันจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

จุดประสงค์การเรียนรู้

  1. ระบุความหมายและประเภทของสารเสพติดได้
  2. อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ติดสารเสพติดได้
  3. สรุปโทษของบุหรี่และแอลกอฮอล์ได้

­ สาระการเรียนรู้

  1. ความหมายของสารเสพติด
  2. สารเสพติดในประเทศไทย
  3. สาเหตุที่ทำให้ติดสารเสพติด

กิจกรรมการเรียนรู้

  1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
    1. ครูนำภาพคนเสพยาบ้าแล้วทำอันตรายผู้อื่นให้นักเรียนดู และให้นักเรียนเขียนบรรยายความรู้สึกจากการดูภาพนั้น
    2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
  2. ขั้นกิจกรรม
    1. นักเรียนศึกษาเรื่องสารเสพติดและผลของสารเสพติดต่อร่างกาย จากหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ม.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องที่ 17 หน้า 63 – 64 และจากใบความรู้ที่ 17
    2. นักเรียนจับคู่กันทำใบงานที่ 17 กิจกรรมที่ 1 เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แลกกัน ตรวจผลงาน
    3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ทำใบงานที่ 17 กิจกรรมที่ 2
  3. ขั้นสรุป
    1. นักเรียนควรสรุปได้ว่า แนวสรุป การสูบบุหรี่ทำให้ปอดได้รับอันตราย ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ทำให้เสียบุคลิกภาพ
    2. ครูชื่นชมผลงานจากการทำภาพโฆษณารณรงค์โทษของการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
    3. ครูนำผลงานของนักเรียนมาติดหน้าชั้นเรียน

­สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

  1. สื่อการเรียนรู้
    1. ใบความรู้ที่ 17 เรื่อง สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
    2. ใบงานที่ 17 เรื่อง สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
    3. อุปกรณ์ตามใบงานที่ 17
    4. ภาพจากสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับคนเสพยาบ้าหรือสารเสพติดต่าง ๆ
    5. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ม.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง สารเสพติดและผลต่อร่างกาย ของบริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด
  2. แหล่งเรียนรู้
    1. ห้องสมุด
    2. ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

การวัดและประเมินผล

  1. วิธีวัดและประเมินผล
    1. สังเกตจากพฤติกรรมรายบุคคล
    2. สังเกตจากพฤติกรรมการปฏิบัติงานภายในกลุ่ม
    3. ประเมินจากพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม
    4. ตรวจจากใบงานที่ 17
  2. เครื่องมือวัดและประเมินผล
    1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล (อยู่ในภาคผนวก หน้า 294)
    2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานภายในกลุ่ม (อยู่ในภาคผนวก หน้า 297)
    3. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม (อยู่ในภาคผนวก หน้า 295)
    4. ใบงานที่ 17 เรื่อง สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
  3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล
    1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์
    2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานภายในกลุ่ม ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์
    3. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
    4. ใบงาน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์

­ข้อเสนอแนะ

          ครูอาจให้ผู้เรียนหาภาพเกี่ยวกับโทษของสารเสพติดชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้ในการนำเข้าสู่บทเรียน โดยการนำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้วนำภาพเหล่านั้นไปใช้ประกอบการทำใบงาน


สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
ใบความรู้ 

          สารเสพติดทุกชนิดล้วนเป็นมหันตภัย เพราะทำลายสุขภาพของผู้เสพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทำลายความสงบสุขของครอบครัวและสังคม การหลีกเลี่ยงจากสารเสพติดจึงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้ตนเอง ครอบครัว และสังคม มีความแข็งแรง ปลอดภัย และสงบสุข ความหมายของสารเสพติด

          องค์การ อนามัยโลกให้ความหมายของสารเสพติดไว้ว่า สารเสพติด หมายถึง สิ่งที่รับเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน ฉีด สูบ หรือดมติดต่อกันชั่วระยะหนึ่งแล้วมีผลต่อร่างกายและจิตใจของผู้เสพ ดังนี้

  1. มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเสพต่อไปเรื่อย ๆ
  2. มีความโน้มเอียงที่จะเพิ่มปริมาณของสารเสพติดให้มากขึ้น
  3. เมื่อถึงเวลาต้องการเสพแล้วไม่ได้เสพจะเกิดอาการอยากยา โดยแสดงออกในลักษณะต่างๆ เช่น หาว อาเจียน น้ำหูน้ำตาไหล ทุรนทุราย คลุ้มคลั่ง ขาดสติ โมโห ฉุนเฉียว เป็นต้น
  4. ผู้ที่ใช้สารเสพติดเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพของผู้เสพทั้งทางร่างกายและจิตใจ 


การแบ่งประเภทของสารเสพติดตามการออกฤทธิ์

  1. ยาเสพติดประเภทกดประสาท ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน สารระเหย และยากล่อมประสาท
  2. ยาเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท ได้แก่ แอมเฟตามีน กระท่อม และ โคคาอีน
  3. ยาเสพติดประเภทหลอนประสาท ได้แก่ แอลเอสดี ดีเอ็มพี และ เห็ดขี้ควาย
  4. ยาเสพติดประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน กล่าวคือ อาจกดกระตุ้น หรือ หลอนประสาทได้พร้อม ๆ กัน ตัวอย่างเช่น กัญชา

­สารเสพติดในประเทศไทย สารเสพติดให้โทษมีมากมายหลายประเภท สำหรับประเทศไทยสารเสพติดที่รู้จักกันดี ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน กัญชา กระท่อม ยาบ้า เอ็คตาซี (ยาอี) สารระเหย

สาเหตุที่ทำให้ติดสารเสพติด

          สาเหตุสำคัญของการติดสารเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นมักเกิดจาก

  1. การถูกชักชวน มักจะเกิดกับเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัว ขาดความอบอุ่น เชื่อเพื่อน อาศัยเพื่อนเป็นที่พึ่ง
  2. การอยากทดลอง อยากรู้อยากเห็น โดยมีความคิดว่าจะไม่ติดง่าย ๆ แต่เมื่อทดลองเสพเข้าไปแล้วมักจะมีความคิดอยากกลับมาเสพอีก
  3. การถูกหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงไม่ทราบว่าเป็นสารเสพติดให้โทษร้ายแรง คิดว่าไม่มีพิษร้ายแรง ผลสุดท้ายก็กลายเป็นผู้ติดสารเสพติด
  4. สาเหตุทางกาย ผู้เสพต้องการบรรเทาความเจ็บป่วยทางกาย เช่น ต้องถูกผ่าตัดหรือเป็นโรคปวดศีรษะ โรคมะเร็ง จึงหันเข้าหาสารเสพติดจนติดยาในที่สุด
  5. ความคึกคะนอง ต้องการแสดงความเด่นดังอวดเพื่อน ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้ติดสารเสพติดในที่สุด
  6. สิ่งแวดล้อม เช่น แหล่งชุมชนแออัด แหล่งที่มีการเสพและค้ายาเสพติด หรือสภาวะทางเศรษฐกิจบีบคั้นจิตใจ โดยคิดว่าจะช่วยให้ตนเองหลุดพ้นจาก ภาพต่าง ๆ เหล่านั้นได้

บุหรี่และแอลกอฮอล์

          การสูบบุหรี่ทำให้ปอดถูกทำลายเนื่องจากในควันบุหรี่มีส่วนประกอบทางเคมีที่ให้โทษ

          คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นแก็สที่ซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และกันไม่ให้แก็สออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้ต้องหายใจเร็วขึ้น ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นด้วย ผู้สูบบุหรี่ จะมีความรู้สึกว่า ต้องการนิโคตินและพวกเขาจะกลายเป็นคนติดบุหรี่
          นิโคติน เป็นสารพิษ ทำให้หลอดเลือดแดงแคบลง หัวใจสูบฉีดเลือดได้ยากขึ้น
          ทาร์ และสารอื่น ๆ ที่อยู่ในควันของยาสูบ ทำให้ปอดระคายเคือง หากมีควันไอมาก จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ปอดได้มากขึ้น

         แอลกอฮอล์เป็นสารที่ก่อให้เกิดความมึนเมา นักเรียนอาจกลายเป็นคนติดของมึนเมาได้ ถ้าดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวัน แม้จะดื่มในปริมาณน้อย สำหรับผู้ที่ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ จะทำให้ผู้ดื่มมีอาการครึกครื้นสนุกสนาน ร่าเริง ทำให้ผู้ดื่มมีพฤติกรรมการแสดงออกต่าง ๆ   

ตารางแสดงความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดกับอาการของผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด  มิลลิกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร/(mg/cm3)ลักษณะอาการ                  ผลที่เกิดขึ้นกับผู้ดื่ม
50 – 150เมาน้อย– ประสิทธิภาพการมองเห็น และการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อต่ำลงเล็กน้อย
– การตัดสินใจเริ่มช้าลง
150 – 300เมาปานกลาง– ประสิทธิภาพการมองเห็นต่ำลงมาก ระบบควบคุมการทำงานของระบบประสาทลดลง
– การตัดสินใจช้าลง พูดไม่ชัด 
300 – 500เมามาก– ตามีอาการพร่ามัว หรือเห็นภาพซ้อน 
– ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ อุณหภูมิในร่างกายต่ำ- แขนและขาเกิดอาการเกร็ง
มากกว่า  500รุนแรง– ไม่รู้สึกตัว หายใจช้า การตอบสนองลดลง
– การควบคุมการทำงานของระบบประสาท   เสื่อมลง และอาจตายได้

สารเสพติดและผลต่อร่างกาย 
ใบงานที่ 17

จุดประสงค์การเรียนรู้

  1. ระบุโทษของบุหรี่ที่มีต่อร่างกายได้
  2. ตระหนักถึงโทษของบุหรี่ที่ทำให้ผู้สูบเป็นอันตรายและรบกวนผู้อยู่ใกล้ชิด
  3. เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษของบุหรี่และแอลกอฮอล์

คำชี้แจง  ให้นักเรียนศึกษาข้อมูลจากการทำกิจกรรมตามที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถาม

กิจกรรมที่ 1   การสูบบุหรี่วิธีการทดลองจากภาพเป็นชุดสาธิตเครื่องมือสูบบุหรี่ เครื่องมือนี้จะจับสารเคมีบางชนิดในควันบุหรี่ที่มีอันตราย ให้นักเรียนสังเกตลักษณะของสำลี สีของยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์ และกลิ่นที่ออกมาจากหลอดแก้ว แล้วตอบคำถาม  

1. สมมติว่านักเรียนเป็นแพทย์ นักเรียนจะให้คำแนะนำอย่างไรกับผู้ป่วยที่สูบบุหรี่เกี่ยวกับ

  • การทดลองและผลที่ได้
  • สารเคมีที่เป็นอันตรายในควันบุหรี่ได้แก่สารอะไรบ้าง และก่อให้เกิดอันตรายอย่างไร

2. ครูให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมต่อไปนี้

  • เขียนจดหมายเกี่ยวกับคำแนะนำถึงโทษของบุหรี่แจ้งแก่ผู้สูบ
  • บันทึกเทปคำแนะนำให้กับผู้สูบ
  • เขียนแผนภาพพร้อมทั้งใช้ลูกศรชี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในเครื่องมือสูบบุหรี่

กิจกรรมที่  2   บุหรี่และแอลกอฮอล์อุปกรณ์

  1. ใบโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ
  2. ปากกาเมจิก
  3. กาว
  4. กระดาษ
  5. เครื่องเขียน
  6. กรรไกร

วิธีการทำกิจกรรม

  1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน และรับอุปกรณ์จากครูผู้สอน 1 ชุด
  2. ให้นักเรียนทุกคนในกลุ่มช่วยกันหาภาพโฆษณาที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์จากสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ หรือจากอินเทอร์เน็ต
  3. ทุกคนช่วยกันคิดคำโฆษณาและตัดภาพต่าง ๆ จากสื่อสิ่งพิมพ์ที่เตรียมมา ติดลงในกระดาษโปสเตอร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงอันตรายของบุหรี่และแอลกอฮอล์
  4.  แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน

สารเสพติดและผลต่อร่างกาย
กิจกรรมที่ 1   การสูบบุหรี่

  1. ผลการทดลอง คือ สำลีเปรียบเสมือนปอดของมนุษย์ ถ้าสูบบุหรี่ปอดจะมีสีดำ และถ้ายูนิ-เวอร์แซลอินดิเคเตอร์มีสีเหลือง แสดงว่าแก๊สที่ออกจากบุหรี่มีฤทธิ์เป็นกรด สารเคมีที่เป็นอันตรายในควันบุหรี่ ได้แก่
    1. ทาร์ ทำให้ปอดเกิดการระคายเคือง
    2. นิโคติน ทำให้เส้นเลือดแคบลง ทำให้สูบฉีดเลือดยากขึ้น
    3. คาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
  2. ให้ครูพิจารณาจากคำตอบของนักเรียนแต่ละคน

 กิจกรรมที่    บุหรี่และแอลกอฮอล์

         ขึ้นอยู่กับการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนของนักเรียนแต่ละกลุ่ม