
ปัญหาที่เกิดจากการบุกรุกและการโจรกรรม
มีแนวโน้มที่จะมีมากขึ้นและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงถึงกันและกัน และมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งแน่นอนที่จะมีทั้งคนดีและคนร้ายที่แอบปะปนกัน...
|
ในช่วงระยะเวลาเดือน-สองเดือนที่ผ่านมา
ข่าวคราวจากหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนได้ลงเรื่องราวเกี่ยวกับการโจรกรรม
และปัญหา ที่เกิดจากแฮกเกอร์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
|
แฮกเกอร์
คือ บุคคลที่อยู่ในมุมมืด แอบแฝงเจาะด่านป้องกันต่าง
ๆ ของระบบเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเป้าประสงค์ต่าง
ๆ กัน ตั้งแต่เข้าทำลายระบบและข้อมูลข่าวสาร เปลี่ยนแปลงแก้ไข
ลักลอบคัดลอกข้อมูล ล้วงความลับ รวมถึงสร้างความปั่นป่วนให้กับวงการผู้ใช้ได้มาก
การดำเนินงานของแฮกเกอร์
มีเทคนิควิธีการที่เผยแพร่กันในกลุ่มแฮกเกอร์อยู่มาก ตั้งแต่การเจาะผ่านพอร์ตที่เปิดบริการ
การยิงข้อมูล จำนวนมากผ่านพอร์ตบริการให้เกิดโอเวอร์โฟล์ว
เพื่อเครื่องจะได้ทำงานผิดปกติ การฝ่าด่านเจาะรูโหว่ของระบบ
เพื่อควบคุมระบบ และสามารถเข้าสู่การเป็นซูเปอร์ยูสเซอร์ของระบบ
การดำเนินการยังนำเอารหัสผ่าน ซึ่งเป็นรหัสที่ผ่านการเข้ารหัสแล้วไปถอดด้วยโปรแกรมหรือเครื่องมือการถอดรหัส
เพื่อให้ได้อักขระรหัสผ่านของผู้ใช้
|
สิ่งที่สำคัญ
คือ
บนเครือข่ายมีข้อมูลไหลผ่านจำนวนมาก แฮกเกอร์สามารถวางโปรแกรมประเภท
network monitor ที่คอยเก็บข้อมูลที่ผ่าน ไปมาบนเครือข่าย
มาวิเคราะห์หารหัสผ่าน หายูสเซอร์เพื่อจะตามเข้าระบบทีหลัง
โปรแกรมที่แฮกเกอร์วางไว้มีมากมายและแพร่หลาย การ ดักฟังข้อมูลวิธีนี้เป็นวิธีที่แฮกเกอร์ชอบดำเนินการ
โดยเฉพาะการดักที่เกตเวย์สำคัญ การดักในเครือข่ายอีเทอร์เน็ตที่ข้อมูลมีลักษณะกระจาย
(boardcast) จะได้ข้อมูลจำนวนมากมาทำการวิเคราะห์หารูรั่ว
และตามเข้าระบบได้ภายหลัง
การวางโปรแกรมเจาะระบบอีกอย่างหนึ่งคือ
ใส่ฝังมากับโปรแกรมแจกฟรีต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดโปรแกรมมา
หรือรันโปรแกรมที่ได้มาจากอีเมล์ และเรียกรันโปรแกรม โปรแกรมประเภท
network monitor หรือไวรัส หรือโทรจันฮอส จะออกมาฝังตัวแอบซ่อนอยู่ใน
เครื่องไคลแอนด์ของผู้ใช้เฝ้าดูเครือข่าย วิเคราะห์และส่งข้อมูลกลับให้ผู้วางโปรแกรมนั้น
วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้มีมากมาย
เพราะทุกเส้นทางที่เปิดบริการ ทุกพอร์ตที่มีให้เข้าใช้บริการ
เป็นจุดทางเข้าของแฮกเกอร์ได้ทั้งนั้น ดังนั้นพอร์ตหรือเส้นทางเข้าที่ไม่จำเป็น
จึงไม่ควรเปิดไว้ แต่อย่างไรก็ตามบนอินเทอร์เน็ตต้องมีบริการต่าง
ๆ เช่น การบริการเมล์ การบริการ FTP การบริการ telnet
การบริการ Web ทุกการบริการจึงต้องมีระบบดูแลความปลอดภัย
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เกิดบนเครือข่ายคือ
เมล์ขยะ หรือ spam mail เมล์ระราน เมล์โฆษณาขายสินค้า
เมล์บอมบ์ ตลอดจนเมล์ที่เป็น จดหมายลูกโซ่ ปัญหาเหล่านี้นับวันจะรุนแรง
เพราะเมล์บอมบ์ ทำให้ระบบเซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ หรือหากมีใครที่เป็นสมาชิกส่งเมล์
ถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ปริมาณเมล์จะมากมายมหาศาลจนระบบอาจไม่ตอบสนองหรือหยุดการทำงานได้
สิ่งที่เป็นปัญหาเมื่อเร็ว
ๆ นี้ที่เว็บไซส์หลายแห่งได้รับคือ การโจมตีจากการเรียกใช้พร้อม
ๆ กัน จนทำให้เซิร์ฟเวอร์ให้บริการไม่ได้ และหยุดการทำงาน
การโจมตีลักษณะนี้จะเกิดขึ้นจากแฮกเกอร์เข้าบุกทำลายเครื่องบนเครือข่ายจำนวนมาก
และแอบวางโปรแกรมไว้ ภายในเครื่อง พร้อมตั้งเวลาเพื่อส่งคำขอใช้ระบบไปที่เป้าหมายพร้อมกันจำนวนมาก
ๆ จนทำให้เซิร์ฟเวอร์โอเวอร์โหลด
|
|
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาร่วมกันของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
ดังนั้นผู้ใช้ทุกคนต้องร่วมมือกัน ข้อแนะนำเบื้องต้นในการใช้คอมพิวเตอร์
และเครือข่ายอย่างปลอดภัยมีดังนี้
|
- ผู้ใช้พึงระลึกและเข้าใจว่า
นโยบายการรักษาความปลอดภัยขององค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงควรให้ความร่วมมือกับองค์กร
และปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด
|
- ควรเปลี่ยนรหัสผ่านทุกเดือน
|
- ไม่ควรให้ข้อมูลใด
ๆ กับผู้ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย
สำหรับนิสิตผู้ใช้ ไม่ควรให้ข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ของผู้ปกครอง
หมายเลขโทรศัพท์กับบุคคลที่ไม่เคยรู้จักตัว
|
- ไม่ควรแชร์
Account ให้ใช้งานหลายคน
|
- รหัสผ่านควรต้องมีความยาวเกินกว่า
8 ตัว และจะต้องเป็นคำที่ไม่มีในพจนานุกรม ควรมีอักษรพิเศษร่วมอยู่ด้วย
|
- ไม่ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งข้อมูลที่ไม่รู้จัก
หรือถ้าได้รับโปรแกรมที่ส่งมาให้ทดลองจากคนไม่รู้จัก ไม่ควรที่จะเรียก
รันบนเครื่องคอมพิวเตอร์
|
- ในการ login
ทุกครั้ง ให้ตรวจดูว่า ครั้งก่อนที่ login เป็นตัวเราเองหรือไม่
ถ้าพบผู้บุกรุกให้แจ้ง admin และผู้ดูแลระบบ ทราบทันที
|
- ไม่เปิดเครื่องที่
login ค้างไว้ โดยที่ตัวเองไม่อยู่ที่โต๊ะทำงาน
|
- ติดตั้งรหัสผ่านที่
BIOS และที่ระบบปฏิบัติการ
|
- หลีกเลี่ยงการใช้
ICQ หรือถ้าจะใช้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และเข้าใจ
|
- ควรมีการสแกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
|
- ทำสำเนาข้อมูลไว้อย่างสม่ำเสมอ
|
- ไม่ควรเก็บเมล์หรือเอกสารสำคัญไว้ในเมล์บ็อกในเครื่องเซิร์ฟเวอร์
ควรเก็บไว้ในเครื่องไคลแอนต์ของตนแลดูแลเฉพาะ
|
|
***
สิ่งที่สำคัญ
คือ
เราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับระบบ และติดตามความเคลื่อนไหว
โดยเฉพาะจะต้องปฏิบัติตนตามกรอบแห่งศีลธรรม จริยธรรมอย่างเคร่งครัด
|
|
|
ที่มา
http://www.ku.ac.th/magazine_online/hacker.html
|
|

|
|