สร้างโดย : นายวรวิทย์ โรงเรียนบ้านชะโนด2
สร้างเมื่อ จันทร์, 12/07/2010 – 18:04
มีผู้อ่าน 31,307 ครั้ง (23/07/2023)
ที่มา : http://old.thaigoodview.com/node/104549

ปริศนาคำทาย

       หมายถึง ถ้อยคำที่ยกขึ้นเป็นเงื่อนงำ เพื่อให้แก้ ให้ทาย การเล่นทายกัน ใช้ถ้อยคำธรรมดาเป็นภาษาร้อยแก้ว หรือจะมีสัมผัสแบบภาษาร้อยกรองก็ได้ ภาษาที่ใช้นั้นเป็นภาษาสั้น ๆ ง่าย ๆ กระชับความ แต่ยากแก่การตีความในตัวปริศนาอยู่บ้าง มักนิยมกันในหมู่เด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ ยกคำทายเพื่อมาทายกัน เป็นการฝึกสมอง ลองภูมิปัญญา ช่วยฝึกความคิด ก่อให้เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ และเกิดความสนุกขบขัน บันเทิงใจด้วย นอกจากจะนี้ ยังฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักจำ รู้จักสังเกต เป็นวิธีการสอนเด็กที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง ในสมัยโบราณ การลองภูมิปัญญาว่าผู้นั้นจะมีความเฉลียวฉลาดหรือไม่เพียงไร วิธีหนึ่งก็คือ การทายปริศนาหรือการทายปัญหาดังนั้นการเล่นปริศนาคำทาย จึงเป็นที่นิยมกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ปริศนาคำทาย วิธีเล่นคือผู้ทายจะเริ่มต้นการทายด้วยคำขึ้นต้นว่า “อะไรเอ่ย” ต่อจากนั้นก็จะเริ่มทายถึงสิ่งของ คน ต้นไม้ ผักสด ผลไม้ สัตว์ ฯลฯ โดยนำลักษณะเด่นหรือนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นที่ใกล้เคียงกันเป็นการชี้แนะเพื่อให้ทายถูก อาจมีปัญหาเชาวน์ ซึ่งผู้ตอบจะต้องมีความรู้รอบตัว และมีความจำอย่างดีว่า คำตอบนั้นคืออะไร ถ้าทายถูกจะเป็นผู้ตั้งปัญหา ถ้าทายผิดจะต้องตอบปัญหาใหม่ หรือผู้ถามจะถามคนเดียวต่อไปเรื่อย ๆ ใช้เล่นตั้งแต่สองคนขึ้นไปไม่จำกัดเวลาและสถานที่ การถามให้ตอบหาก ผู้ตอบตอบไม่ได้ จะมีการบอกใบ้ หากใบ้แล้วยังตอบไม่ได้ ถ้าต้องการทราบคำตอบต้องยอมแพ้ในการยอมจะมีกติกาให้ปฏิบัติตาม เช่น เขกเข่า ให้ดื่มน้ำหรือกินอาหารจนอิ่ม ยอมเป็นทาส ซึ่งผู้ยอมแพ้ถือว่าเป็นการเสียหน้า ทั้งนี้เป็นการเน้นให้คิด ให้ใช้สติปัญญา จะไม่ยอมง่าย ๆ จึงถือว่าเป็นวรรณกรรมที่ส่งเสริมการใช้ความคิดสติปัญญา ปริศนาคำทายของภาคกลางขึ้นต้นด้วย อะไรเอ่ย ภาคเหนือขึ้นต้นด้วย อะหยังหวา อันหยังเอ๊าะ ภาคอีสานขึ้นต้นด้วย แม่นหยัง อิหยัง ภาคใต้ขึ้นต้นด้วย ไอ้ไหรหา ไอ้ไหรเหอ การั่ย ไหโฉ้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็นิยมทายปริศนากัน แต่มักจะแต่งเป็นโคลงหรือกลอนให้มีความไพเราะไปในทางภาษาหนังสือ เป็นการทายในหมู่ชนชั้น ที่ได้รับการศึกษา ซึ่งต่างจากการทายปริศนาตามหมู่บ้านหรือตามประสาชาวบ้าน เช่น วัดหนึ่งนามเรียกคล้าย เวลา ราตรีต่อทิวา นั่นไซร้ มีนามซึ่งชนสา- มัญเรียก แปลว่าวัดซึ่งไร้ ร่มไม้ชายคา (เฉลย – วัดแจ้ง หรือ วัดอรุณ) เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธมกุฎราชกุมาร พระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในบางโอกาส สำหรับให้ข้าราชบริพารส่วนพระองค์คิดทายกันเล่น หรือภายในแวดวงข้าราชสำนักสมัยนั้น เช่นในงานฤดูหนาวประจำปีที่วัดเบญจมบพิตรในสมัยนั้น จัดว่าเป็นงานที่สนุกสนานที่สุด เป็นงานที่เจ้านายเชื้อพระวงศ์มาออกร้านกันมาก การเล่นทายปัญหาหรือปริศนานับว่าเป็นจุดสำคัญที่สุดของงาน รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์ปัญหาร่วมด้วย จึงมีข้าราชบริพารสนใจตอบหรือทายกันมาก และมีรางวัลสมนาคุณให้แก่ผู้ที่ตอบหรือทายถูกอีกด้วย การเล่นทายปัญหาในวัดเบญจมบพิตรนี้ ในขั้นแรกเรียกว่าเป็นการทาย “ผะหมี” ซึ่งเป็นการเล่นอย่างแพร่หลายในหมู่ นักปราชญ์ราชบัณฑิตและกวีในประเทศจีน

ลักษณะของปริศนาคำทาย

  1. นิยมใช้คำคล้องจองกันโดยไม่กำหนดจำนวนคำในแต่ละวรรค เป็นข้อความสั้น ๆ กะทัดรัดหรืออาจผูกเป็นปริศนากลอน ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนทำให้จำได้ง่าย
  2. เนื้อหานั้นมักจะนำมาจากสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา เช่น ของใช้ คน สัตว์ ผัก พืช เวลา สถานที่ เครื่องใช้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เชาว์ปัญญา ฯลฯ ซึ่งผู้ผูกปริศนาจะต้องเป็นคนช่างสังเกต แล้วนำเอาสิ่งที่สังเกตเห็นมาผูกปริศนาให้ผู้อื่นใช้ปัญญาเพื่อแก้หรือทาย
  3. จำนวนข้อความคำถามจะมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน คือ อาจจะมีเพียงตอนเดียว สองตอน สามตอน หรือมากกว่านี้ แต่ข้อความทุกตอนจะเป็นการบอกคำตอบอยู่ในตัวเป็นนัยๆ ซึ่งเมื่อนำคำตอบมารวมกันจะเป็นลักษณะของสิ่งที่ทายนั่นเอง
  4. ไม่นิยมถามตรง ๆ แต่จะใช้สิ่งเปรียบเทียบ
  5. มีการท้าทายให้ผู้ไขปริศนาพยายามคิด

ประโยชน์ที่ได้รับ

  1. ผู้เล่นได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ขบขัน เป็นการพัฒนาจิตใจให้แจ่มใส
  2. ฝึกให้ผู้เล่นเป็นผู้มีนิสัยช่างสังเกต ช่างคิด ฉลาดเฉลียวในการฝึกปัญญาของผู้เล่น
  3. ผู้เล่นจะได้รับความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น สำนวนภาษา สังคมวิทยา และธรรมชาติวิทยา
  4. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
  5. เป็นการสร้างความสามัคคีสร้างมนุษยสัมพันธ์ในหมู่ผู้เล่นอีกด้วย
  6. เป็นการพัฒนาการใช้ภาษา
  7. เป็นการฝึกให้มีไหวพริบ เชาวน์ ปัญญาดี

 ตัวอย่างของปริศนา

       ตัวอย่างของปริศนาคำทายแยกเป็นประเภท ดังนี้

ปริศนาคำทายเฉลย
ใครหือชื่อตกแล้ว ไม่หล่น
คิดวัดถุชอบกล แปลกไซร้
ของนี้แหละให้ผล พิลึก
ช่วยการเป็นไทได้ แต่เบื้องโบราณ
พระร่วง ทรงคิดกะละออม หรือครุ ขึ้นมาใส่น้ำส่งส่วยไปยังเมืองขอม
ใครเอ่ยแต่เด็กกล้า รบแรง
พ่อออกนามว่าแขง เศิกไซร้
เป็นขุนจึ่งจัดแจง จาฤก
ประวัติของตนไว้ คู่ด้าวแดนตน
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
อะไรเอ่ย สามขาเดินมาหลังคามุงสำลีคนแก่ถือไม้เท้า
อะไรเอ่ย หัวเป็นหนามถามไม่พูดพระพุทธรูป
ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยรถยนต์ก็ไม่ใช่ รถไฟก็ไม่เชิง วิ่งเตลิดเปิดเปิงอยู่กลางป่ากิ้งกือ หมายความว่ากิ้งกือเดินอยู่ทั่วไป
อะไรเอ่ยคนสามแสน หามแกนไม้ประดู่กิ้งกือ แกนไม้ประดู่ หมายถึงตัวกิ้งกือมีสีแดงคล้ายสีของไม้ประดู่แดง
อะไรเอ่ยเขียวเหมือนพระอินทร์ บินเหมือนนก ศรปักอก นกก็ไม่ใช่แมลงทับ
อะไรเอ่ยเรือนสองเสา หญ้าคาสองตับ นอนไม่หลับลุกขึ้นร้องเพลงไก่ เรือนสองเสา หมายถึงไก่มี 2 ขา หญ้าคาสองตับ หมายถึง ปีกไก่ทั้งสองข้างมีลักษณะเหมือนตับ หญ้าคาที่ใช้มุงหลังคาบ้าน
อะไรเอ่ยวิ่งโทง ๆ มีธงข้างหลังสุนัข โทง ๆ หมายถึงไม่สวมเสื้อผ้าธง ตามธรรมชาติของสุนัขเวลาวิ่งหางจะโบกไปมาเหมือนธง
อะไรเอ่ยสี่ตีนเดินมาหลังคามุงกระเบื้องเต่า
อะไรเอ่ยตีนเป๋อ ๆ คะเย่อกินใบไผ่ช้าง คำว่าเป๋อ หมายความถึง เฉย ๆ และธรรมชาติของช้างของกิน หน่อไม้ ใบไผ่ และพืชอื่น
อะไรเอ่ยสี่ตีนเชื่อง ๆ ไม่มุงกระเบื้องแต่มุงเข็มช้าง คำว่าเป๋อ หมายความถึง เฉย ๆ และธรรมชาติของช้างของกิน หน่อไม้ ใบไผ่ และพืชอื่น
อะไรเอ่ยแหวนกับแหวนชนกันที่หันอากาศ เกิดเป็นสัตว์ประหลาด ชอบกินหญ้าวัว แหวนกับแหวนชนกัน คือการสะกดคำมีตัวอักษร ว. 2 ตัว = วัว
อะไรเอ่ยชื่อเหมือนคนตายมีปีกบินได้ หากินกับดอกไม้ผีเสื้อ
นกอะไรไม่ใช่ของเรานกเขา
อะไรเอ่ยมัจฉาหนึ่งหน้ายาวราวสักฟุตปลาม้า
มัจฉาหนึ่งชื่อบอกเป็นฝรั่งปลาทู หมายถึงออกเสียงเหมือนคำในภาษาอังกฤษ
มัจฉาหนึ่งดุร้ายใคร ๆ ชังปลาเสือ
มัจฉาหนึ่งถูกขังไม่ดิ้นรนปลากระป๋อง
อะไรเอ่ยชืออยู่บนฟ้ากายาอยู่ในน้ำปลาดาว
อะไรเอ่ยชื่ออยู่ป่ากายาอยู่ในน้ำปลาเสือ
อะไรเอ่ยชื่ออยู่ในครัว ตัวอยู่ในน้ำแมงกระชอน กระชอน คือของใช้ในครัว สำหรับกรองกะทิ
ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ๋ยเมื่อเด็กนุ่งผ้า เมื่อชราเปลือยกายต้นไผ่ เป็นการบอกลักษณะว่าเมื่อต้นไผ่ยังอ่อน (เป็นหน่อไม้) มีกาบหุ้ม แต่เมื่อโตขึ้นกาบที่หุ้มจะหลุดออก
อะไรเอ่ยเด็กดำนอนมุ้งขาว เรือนปั้นหยาสีเขียวน้อยหน่า เด็กดำ คือ เมล็ด มุ้งขาว คือ เนื้อเรือนสีเขียว คือ เปลือก
อะไรเอ่ยข้างนอกขรุขระ ข้างในตะติ๊งโหน่งน้อยหน่า หรือทุเรียน เป็นการบอกลักษณะของผลไม้ว่า ผิวข้างนอกขุขระไม่สวยแต่เนื้อข้างในดีรับประทานอร่อย
อะไรเอ่ยข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงมะเดื่อ ซึ่งมีผิวนอกแดงสวย แต่ในลูกเป็นโพรง เพราะถูกหนอนเจาะ
อะไรเอ่ยใบหยัก ๆ ลูกรักเต็มคอ มะละกอก็ไม่ใช่ต้นตาล
อะไรเอ่ยต้นเท่าครก ใบปรกดินตะไคร้
อะไรเอ่ยสุกไม่หอม งอมไม่หล่น แห้งราคาตัน คนกินได้ข้าวโพด เพราะเมื่อแก่ได้ที่ก็ไม่หอมแห้งอยู่กับต้น
อะไรเอ่ยต้นเท่าเข็มใบเต็มทุ่งนาผักแว่น เป็นผักที่มีลำต้นเล็กขนาดต้นถั่วงอก ใบเป็นรูปหัวใจ ๓ แฉกติดกัน เป็นรูปกลม มัก
ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยชักออกมาดำ ดำเข้าไปแดง มีแสงไฟไม้ขีด สมัยก่อนไม้ขีดไฟจะมีหัวขีดที่ทำจากฟอสฟอรัสสีดำ เมื่อนำไปเสียดสี (ขีด) กับข้างกล่อง จะเป็นไฟสีเทา ต้องเอาไปทิ้ง
อะไรเอ่ย ซื้อมาเป็น สีดำ นำมาใช้เป็นสีแดง พอสิ้นแสงกลายเป็นสีเทา ต้องเอาไปทิ้งถ่านไม้ ที่มีสีดำเพราะนำไม้ไปเผาก่อนแล้วจึงนำมาใช้
อะไรเอ่ยนั่งบนตอหัวร่อคัก ๆ นั่งบนตักหัวร่อคึก ๆหม้อข้าวบนเตาไฟ
อะไรเอ่ยม้าสามขา เจ้าพระยาขึ้นขี่ใส่หมวกกำมะหยี่ สูบบุหรี่ ควันปุ๋ยคือ โม่ ในสมัยโบราณทุกบ้านจะต้องมีโม่ไว้สำหรับบดข้าว หรือเมล็ดพืชให้เป็นแป้ง เพื่อนำไปประกอบอาหาร ลักษณะของโม่เป็นหินกลม 2 แผ่น

  

ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพ

ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ย ข้างโน้นก็เขาข้างนี้ก็เขาเรือสำเภาแล่นตรงกลางกี่ทอผ้า
อะไรเอ่ยคนแก่หลังโกง ลงน้ำไม่ขุ่นเบ็ดตกปลา เบ็ดมีลักษณะงองุ้มเหมือนคนแก่หลักโกง
อะไรเอ๋ยกดหัวท้องป่องสาแหรก หวายที่ผูกด้านล่างถักยึดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดกว้างพอ ที่วางก้นกระบุงหรือกระจาดได้ มีสายขึ้นมามุมละเส้นนำปลายมาถักรวมกันและถักที่คั่น สำหรับสอดไม้คาน สาแหรกจะสูงประมาณ 1-1.20 เมตร เวลาจะนำกระบุงหรือกระจายใส่ต้องกดส่วนบนให้ตรงกลางป่องออก เพื่อจะได้นำกระบุงหรือกระจาดวางบนกันสาแหรกได้สะดวก
อะไรเอ่ยตัวอยู่นา ตาอยู่บ้าน อยู่นากัดข้าว อยู่บ้านกัดฝาตะปู
อะไรเอ่ยดำมิดหมี ยิ่งตียิ่งกัด ดำเหมือนหมัดยิ่งกัดยิ่งดีสิ่วกับฆ้อน เพราะสิ่วและฆ้อนทำด้วยเหล็กมีสีดำ เวลาใช้สกัดไม้จะต้องใช้สิ่วกดลงไปบนไม้แล้วใช้ฆ้อนตีลงบนด้ามสิ่ว เพื่อเจาะในเนื้อไม้
อะไรเอ่ยหน้าขาว ๆ ตัวยาวศอก พอตัดขนออกยาวแค่วาขวาน เป็นปริศนาที่ผู้ทายจะต้องใช้เชาวน์ในการตอบ หมายถึงหากตัดพยัญชนะตัวหน้าคือ ข. และพยัญชนะสะกดตัวท้ายคือ น. จะเหลือแต่ตรงกลางคือ “วา”
อะไรเอ่ย มีหาง มีปาก มีตา กินปลาเป็นอาหารแห
อะไรเอ่ยกินข้างล่าง ขี้ข้างบนกบไสไม้

ปริศนาเกี่ยวกับการคมนาคม

ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยมะลุมมะลำ เดินวันยังค่ำไม่เห็นรอยเรือ เนื่องจากแล่นในน้ำไม่มีร่องรอยให้เห็น
อะไรเอ่ยยิ่งตัดยิ่งยาวถนน คำว่าตัดในที่นี้คงหมายถึงการตัดพื้นที่บางส่วนมาสร้างถนน

ปริศนาเกี่ยวกับธรรมชาติ

ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยกลางวันเก็บใส่กระบาย กลางคืนกระจายออกดาว
อะไรเอ่ยเขียวชะอุ่มพุ่มไสว ไม่มีใบมีแต่เม็ดฝน
อะไรเอ่ยกะลาซีกเดียว ข้ามทะเลได้พระจัทร์
อะไรเอ่ยสูงเทียมฟ้า ต่ำกว่าหญ้านิดเดียวภูเขา
อะไรเอ่ยสูงกว่าน้ำด่ำกว่าเรือฟองน้ำ จะอยู่ข้าง ๆ เรือ เวลาแล่นในน้ำจะมีฟองลอยอยู่ด้วย

ปริศนาเกี่ยวกับเบ็ดเตล็ด

ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยนารีมีรู เพชรสีชมพูคารูนารีตุ้มหู
อะไรเอ่ยนกกระปูดแดง น้ำแห้งก็ตายตะเกียง
อะไรเอ่ยมีฟันมากมายแต่กินอะไรไม่ได้หวี
อะไรเอ่ยหึ่งๆ เหมือนผึ้งภุมรา เอกบาทาจะเร ๆลูกข่าง เวลาหมุนจะมีเสียงดังหึ่ง ๆ
อะไรเอ่ยไม่มีคอไม่มีหัว มีแต่หน้า ถึงเวลาตีได้ตีเอากลอง
อะไรเอ่ยสองหูสี่ตา เบื่อนักหา เอาขาไว้ที่หูแว่นตา
อะไรเอ่ยสองหน้ามีงาเต็มตัวข้าวเกรียบงา ขนมสมัยโบราณ จะทานต้องนำมาปิ้ง
อะไรเอ่ยสี่ตีนเกาะฝา อ้าปากกินคนมุ้ง
ปริศนาคำทายเฉลย
อะไรเอ่ยไม่ใกล้ไม่ไกลมองเห็นรำไรจมูก
อะไรเอ่ยตัดโคนก็ไม่ตาย ตัดปลายก็ไม่เน่าผม

ปริศนาคำทายที่มีข้อความเพียงตอนเดียว

ปริศนาคำทายเฉลย
สีบาทฟ้าดหาผักตำลึง
น้ำอะไรไม่เคยขึ้นน้ำตก

 

ปริศนาคำทายที่มีข้อความสองตอน

ปริศนาคำทายเฉลย
กาไม่ใช่กาแท้ การ่อแร่เกาะกิ่งไม้กาฝาก
ต้นเท่าก้อย ใบห้อยถึงดินตะไคร้
กลิ้งอยู่บนพื้นธรณี สีชมพูชูสีอยู่ในกลมกลิ้งแตงโม
ต้นเท่าเทียน ใบเท่าถาดบัวหลวง
ฝนตกสิบห่า หลังคาไม่เปียกใบบัวใบบอน
เมื่อเด็กนุ่งผ้า เมื่อชราเปลืองกายไผ่
แก่เรียกห้าว สาวเรียกอ่อนมะพร้าว
ต้นเท่าเข็ม ใบเต็มแม่น้ำผักแว่น
ต้นเท่าเรือ ใบห่อเกลือไม่มิดมะขาม
ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงมะเดือ
ต้นเท่าสายพาน ลูกยานโตงเตงมะระ
มีตารอบตัว หัวไว้จุกสับปะรด
ต้นเท่าแขน ใบแล่นเลี้ยวอ้อย
แม่ชีสาวชาววัง ไม่รับสั่งไม่ออกขี้มูก
สามขาเดินมา หลังคามุมสำลีคนแก่ถือไม้เท้า
อยู่ข้างหน้า สุดตาแลเห็นจมูก
น้ำบ่อน้อย คนตั้งร้อยวิดไม่แห้งน้ำลาย
พี่น้องท้องเดียว แลเหลียวไม่เห็นกันใบหู
อยู่ในน้ำเป็นปลา อยู่สุขศาลาเป็นคนหมอ
เกิดมามีหางไม่มีขา พอโตขึ้นมามีขาไม่มีหางกบ
ข้างบนเหน็บกริช ท้ายปิดเรือยนต์กุ้ง
ตัดหัวตัดหาง เหลือกลางวาเดียวความ,กว้าง
สี่ตีนเดินมา หลังคามุงกระเบื้องเต่า
ชื่อน่ากลัว ตัวน่ารักผีเสื้อ
ทุกครั้งที่กางขา ต้องอ้าปากทุกทีกรรไกร
นางท้าวแขนอ่อน กินก่อนพระทัพพี
มีฟันมากมาย แต่กินอะไรไม่ได้ มีฟันมากมาย แต่กินอะไรไม่ได้หวี
สี่ตีนเกาะฝา อ้าปากกินคนมุ้ง
ตัวอยู่ในนา ตาเกาะฝาบ้านตะปู
นกกะปูดตาแดง น้ำแห้งเกือบตายตะเกียง
ตาเป็นไฟ ใจเป็นเหล็กรถยนต์
เดินมาเป็นแถว กินข้าวแล้วหรือยังตัวหนังสือ
โตเท่าภูเขา เบานิดเดียวเมฆ
เมื่อจะใช้เอาไปทอด เมื่อจะทอดเอาไปทิ้งสมอ
สุกเต็มต้น เก็บกินไม่ได้แสงแดด
สูงเทียมฟ้า ต่ำกว่าหญ้านิดเดียวภูเขา

ปริศนาคำทายที่มีข้อความสามตอน

ปริศนาคำทายเฉลย
ห่อผ้าเหลืองอร่าม อยู่ในอาราม ไม่ใช่พระต้นโพธิ์ห่อผ้า
เด็กดำนองในมุ้งขาว เรือนปั้นหยา หลังคาเดียวน้อยหนา
จะว่าแจ๊กก็ไม่ใช่ จะว่าไทยก็ไม่ผิด มีหางอยู่นิดๆมะพร้าว
ใบหยักๆ ลูกรักเต็มต้น มะละกอก็ไม่ใช่ต้นตาล
ไม่มีหัว ไม่มีหาง เดินขวางๆรีๆปู
ชื่อเหมือนคนตาย มีปีกบินได้ มีดอกไม้เป็นที่กินผีเสื้อ
ตัวเป็นไม้ ฟันเป็นเหล็ก มะพร้าวใหญ่เล็กกินไม่เหลือกระต่ายขูดมะพร้าว
มีลูกติดดิน มีตารอบตัว มีหูอยู่บนหัวแห
มาจากอังกฤษ ไม่มีชีวิต แต่พูดได้วิทยุ
สุกไม่หอม งอมไม่หล่น คนกินไม่ได้พระจันทร์
คนจับไม่ได้ เพราะไม่มีตัวตน ถ้ามันจับคนหน้าตามืดมัวลม
มาจากเมืองแขก ตีไม่แตก ฟันไม่เข้าเงา
แก่ๆนุ่งแดง เด็กๆนุ่งขาว สาวๆนุ่งเขียวพริกขี้หนู

 ปริศนาคำทายที่มีความสี่ตอน

ปริศนาคำทายเฉลย
สุกไม่หอม งอมไม่หล่น แห้งคาต้น คนกินได้ข้าวโพด
ต้นเท่านิ้วก้อย ใบย้อยถึงดิน เด็กเก็บมากิน ร้อให้ร่ำไรพริก
ผ่าไม่ผุ ทะลุไม้แก่น ถึงแท่นดินสอ ถึงบ่อน้ำในมะพร้าว
ไม่มีเมีย ไม่มีลูก ไม่มีข้าวปลูก แต่มีข้าวกินพระ
มีหูสองหู มีขาสองขา เวรหนักหนา เอาขาแยงหูปิ่นโต
มีหาง มีปาก มีตา กินปลาเป็นอาหารแห

ปริศนาคำทายที่มีคำทายและคำตอบหลายอย่างมารวมกัน

ปริศนาคำทายเฉลย
สุกเหมือนดาว ขาวเหมือนฟ้า ดำเหมือนกา ด่าไม่ฟังมะปราง , มะไฟ , มะเลือ , มะดัน
ผักหนึ่งอยู่หนอง ผักสองอยู่วัด ผักสามอยู่ป่าช้า ผักสี่อยู่นาผักเป็ด , ผักชี , ผักกระสัง , ผักแว่น

ปริศนาคำทายที่มีข้อความเป็นส่วนหนึ่งของคำกลอน

ปริศนาคำทายเฉลย
เมื่อจะใช้เอาไปทอด เมื่อจะจอดเอาไปทิ้งสมอเรือ
ต้นเป็นสายยาวหูดูเป็นเส้น ดอกหางเห็นน่ายลบนเวหาว่าว