มีชายหนุ่มกำพร้าพ่อแม่และยากจนมาก
ไม่ว่าเขาจะขยันทำงานรับจ้างหนักเท่าไรก็ยังยากจนอยู่
วันหนึ่งเขาเข้าไปสวดมนต์ในศาลเจ้าแม่กวนอิมแล้วหลับไป
เขาฝันว่าเจ้าแม่กวนอิมมาปรากฏกายต่อหน้าเขาและบอกเขาว่าต่อไปนี้เขาจะโชคดี
พอออกจากศาลเจ้าให้เดินไปทางทิศตะวันออก และถ้าหกล้มที่ไหนมือจับอะไรได้ก็ให้ถือไว้แล้วจะมีโชค
เมื่อชายหนุ่มตื่นขึ้นมาเขารู้สึกปลื้มใจก้มกราบเจ้าแม่กวนอิมแล้วเดินทางออกจากศาลมุ่งไปทางทิศตะวันออก
พอเดินๆไปก็สะดุดหินหกล้ม มือแตะพื้นดินมีฟางเส้นหนึ่งติดมือมา
เขาก็ถือฟาง เส้นนั้นเดินไป
ระหว่างทางแมลงปอมาเกาะที่มือ เขาจึงผูกแมลงปอกับฟาง
แมลงปอก็บินหึ่งๆ ต่อมาเขาพบเด็กเล็กๆยืนร้องไห้ ชายหนุ่มจึงส่งเชือกฟางผูกแมลงปอให้
เด็กชอบใจแมลงปอบิน หึ่งๆจึงหยุดร้องไห้และถือเชือกฟางผูกแมลงปอไว้
แม่ของเด็กดีใจที่ลูกหยุดร้องไห้ จึงให้ส้มแก่ ชายหนุ่มสามผล
ชายหนุ่มเดินต่อไปเห็นหญิงสาวเป็นลมเพราะกระหายน้ำ
จึงมอบส้มสามลูกให้ คนใช้ของหญิงสาว คนใช้ของหญิงสาวรู้สึกขอบคุณจึงมอบผ้าไหมให้ชายหนุ่ม
3 ม้วน ชายหนุ่มเดินแบกผ้าไหมสามม้วนไป พอเดินๆไปก็พบซามูไรนั่งอยู่ข้างม้าที่นอนป่วยอยู่
ซามูไรขอแลกม้า กับผ้าไหม ชายหนุ่มสงสารม้าจึงแลกผ้าไหมให้ไปแล้วจูงม้าไปให้กินน้ำ
ม้าก็แข็งแรง ชายหนุ่มขี่ม้าเดินทางต่อไปจนถึงปราสาท
ใหญ่แห่งหนึ่งก็ขอเข้าไปพักในปราสาท เศรษฐีเจ้าของปราสาท
เห็นม้ามีลักษณะดีจึงขอซื้อ และให้บุตรสาวนำเงินออกมา
เมื่อบุตรสาวนำเงินออกมาและเห็นหน้าชายหนุ่มก็จำได้ว่าเป็นผู้ที่ให้ส้มช่วยชีวิต
เจ้าของปราสาทจึงชวนให้ชายหนุ่มอยู่ทำงานด้วย ชายหนุ่มทำงานด้วยความขยันขันแข็ง
เศรษฐีจึงยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย ชายหนุ่มทำงานจนร่ำรวย
เป็นเศรษฐี ผู้คนก็ขนานนามชายหนุ่มผู้นี้ว่า เศรษฐีฟางเส้นเดียว
|